นายกรัฐมนตรีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคล และองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2560

ข่าวทั่วไป Friday June 23, 2017 15:07 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคล และองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2560

วันนี้ (23 มิถุนายน 2560) เวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่น ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี พ.ศ. 2560 โดยมี รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหาร ผู้แทนส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคธุรกิจเอกชน องค์กรภาคประชาชน และผู้เข้ารับรางวัล

สำหรับพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด มีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติบุคคลและองค์กร ผู้ปฏิบัติงานที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งเชิดชูเกียรติผู้เสียชีวิตและสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ที่ตั้งใจปฏิบัติงานที่ได้รับบาดเจ็บ โดยในปี พ.ศ. 2560 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 24 มีผู้ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลองค์กร รวมทั้งสิ้น 216 ราย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเป็นผู้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลองค์กร จำนวน 47 ราย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมแสดงความยินดีกับบุคคลและองค์ที่ได้รับรางวัล ขอให้ผู้ที่ได้รับรางวัลทุกคนภาคภูมิใจ พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสีย โดยขอให้ครอบครัวผู้สูญเสียภาคภูมิใจกับความเสียสละในการหน้าที่เพื่อส่วนรวม เพื่อประเทศชาติ พร้อมกล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า องค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี เป็น “วันต่อต้านยาเสพติดโลก” เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และเพื่อเป็นการย้ำเตือนให้ประชาชนคนไทยเกิดความตระหนักว่ายาเสพติดเป็นปัญหาของคนไทยทั้งชาติ ที่ผ่านมาถึงแม้จะมีการปราบปรามยาเสพติด แต่ก็มียังมีการลักลอบผลิต ขนส่งตามพื้นที่ และตามแนวชายแดนต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องพัฒนาปรับรูปแบบการป้องกันและปราบปรามให้ทันต่อกระบวน ยาเสพติด โดยการนำเทคโนโลยี และระบบไอทีเข้ามาช่วยการทำงาน รวมทั้งต้องทำงานในเชิงรุกมากขึ้น

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความกังวลต่อการทำงานปราบปรามขบวนการยาเสพติด โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชน โดยเฉพาะการใช้อาวุธในการจับกุม ซึ่งบางครั้งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่ใช้อาวุธ จึงขอให้คำนึง และพึงระลึกอยู่เสมอเรื่องความปลอดภัย ทำให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด โดยมอบหมายให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจัดทำหลักสูตรอบรมเจ้าหน้าที่ ให้มีความพร้อม ในการเผชิญเหตุ ใช้กลยุทธ์ในการปิดล้อม และตรวจค้นให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ดำเนินการกับขบวนการค้ายาเสพติดอย่างเด็ดขาด รวมทั้งตั้งเป้าหมายให้เป็นปีแห่งการปราบปรามขบวนยาเสพติดรายใหญ่ เร่งนำคดีเกี่ยวกับยาเสพติด รวมไปถึงการค้ามนุษย์เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พร้อมปรับรูปแบบการแถลงข่าวโดยไม่ต้องนำผู้ต้องหามาแถลงข่าวในการจับกุม และคุ้มครองพยานบุคคลให้มีความปลอดภัย

ในส่วนของรัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดที่อันตรายร้ายแรงต่อสังคม และเป็นบ่อนทำลายชีวิตของประชาชน โดยในปี พ.ศ. 2560 ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ พร้อมทั้งจัดทำแผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้าน/ชุมชนมั่นคงปลอดภัยจากยาเสพติด ซึ่งปัญหาจะแก้ไขไม่ได้ ถ้าสังคมไม่มีความเข้มแข็ง เพราะฉะนั้นทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาในรูปแบบของประชารัฐ ภาคราชการต้องทำงานตามหน้าที่ ตามกฎหมาย ภาคประชาชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา เป็นเครือข่ายให้กับภาครัฐ โดยนายกรัฐมนตรีคาดหวังให้การป้องกัน ปราบปราม ตลอดจนการฟื้นฟูมีประสิทธิผลมากขึ้น ส่วนราชการจะต้องทำงานเชิงรุกอย่างมีเอกภาพและครบวงจร มีการลงพื้นที่ในระดับจังหวัด อำเภอ ชุมชน เพื่อป้องกัน ปราบปราม บำบัดเพื่อสร้างความเข้มแข็งในหมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศ สามารถควบคุมดูแลปัญหายาเสพติดทั้งในระดับนโยบายและระดับพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ