วันนี้ (29 มิถุนายน 2560) เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม 302 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ครั้งที่ 2/2560 เพื่อติดตามผลและเร่งรัดการแก้ไขปัญหาจราจร ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ซึ่งผลการประชุมสรุปสาระสำคัญดังนี้
ที่ประชุมรับทราบภาพรวมการดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าตามแผนการพัฒนารถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ณ เดือนมิถุนายน 2560 ว่า ได้มีการเร่งรัดก่อสร้าง 6 เส้นทาง ระยะทาง 119.5 กิโลเมตร ได้แก่ 1) สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ เปิดให้บริการปี พ.ศ. 2563 2) สายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เปิดให้บริการเดินรถ 1 สถานี ต่อจากสถานีแบริ่งไปยังสถานีสำโรง โดยโครงการทั้งหมดจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี พ.ศ. 2561 3) สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต เปิดให้บริการปี พ.ศ. 2563 4) สายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เปิดให้บริการปี พ.ศ. 2563 5) สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี รฟม. ลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้างงานโยธาโครงการแล้วเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2560 เปิดให้บริการปี พ.ศ. 2566 และ 6) สายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เปิดให้บริการแล้วจำนวน 3 สถานี
สำหรับการดำเนินการในปี 2560 จะมีการนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกจำนวน 7 เส้นทาง ระยะทาง 103.2 กิโลเมตร ได้แก่ 1) สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ 2) สายสีน้ำเงิน ช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 3) สายสีเขียวเข้ม ช่วงสมุทรปราการ-บางปู ระยะทาง 7 กิโลเมตร 4) สายสีเขียวเข้ม ช่วงคูคต–ลำลูกกา 5) สายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย 6) สีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต และ 7) สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โดยมอบหมายให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้บริหารจัดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ การเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว จากสถานีสำโรง-สถานีแบริ่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธาน ในพิธีเปิดเดินรถไฟฟ้าจากสถานีสำโรง-สถานีแบริ่ง เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2560 ณ สถานีสำโรง และได้ให้บริการเดินรถโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
สำหรับการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ และวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต (รถไฟฟ้ารางเบาจังหวัดภูเก็ต) นั้น ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานดังกล่าว ซึ่ง สนข. ได้ดำเนินการศึกษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 โดยรูปแบบจะเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเบา (Light Rail Transit หรือTramway) ระยะทางรวม 58.525 กิโลเมตร เป็นทางวิ่งระดับดิน ยกเว้นบริเวณท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต จะเป็นสถานียกระดับและมีทางลอดสำหรับระบบรถไฟฟ้า จำนวน 6 ทางลอด ตามแนวทางหลวงหมายเลข 402 มีจุดเริ่มต้นโครงการอยู่บริเวณสถานีรถไฟท่านุ่น จังหวัดพังงา เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางกับระบบรถไฟสายใหม่เส้นทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถึงจังหวัดพังงา ส่วนจุดสิ้นสุดโครงการอยู่ทางเหนือ ของห้าแยกฉลอง (บนถนนเจ้าฟ้าตะวันออก ห่างจากห้าแยกฉลอง ประมาณ 200 เมตร) ทั้งนี้ โครงการศึกษาออกแบบระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ได้ถูกบรรจุไว้ในโครงการตามมาตรการ PPP Fast Track ปี 2560 ของกระทรวงคมนาคม โดย รฟม. จะเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการดำเนินการลงทุนและการก่อสร้างต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีการพิจารณาผลการศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม และออกแบบรายละเอียดโครงข่ายทางเชื่อมระหว่างทางยกระดับอุตราภิมุขและทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ระยะทาง 2.6 กิโลเมตร แนวทาง การลงทุนรูปแบบ PPP ซึ่งจะทำให้โครงข่ายถนน และทางพิเศษสามารถเชื่อมต่อกันได้เป็นระบบ บรรเทาปัญหาการจราจรของพื้นที่เขตเมืองในกรุงเทพมหานคร เป็นการพัฒนาโครงข่ายถนนสายหลักในกรุงเทพมหานครให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นทางเลือกในการเดินทางโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในหลักการของการเชื่อมโยงโครงข่ายดังกล่าวตามผลการศึกษาฯ และให้ คค. มอบหมายหน่วยงานเจ้าของโครงการฯ ไปดำเนินการโครงการฯ รวมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กทพ ทล. รฟท. พิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนต่อไป
****************************************
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th