นายกรัฐมนตรีให้โอวาทคณะเยาวชนและผู้ปกครองในโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ ๑๑ และโครงการเยาวชนไทยในออสเตรเลียคืนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ 6

ข่าวทั่วไป Wednesday July 5, 2017 15:49 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีให้โอวาทคณะเยาวชนและผู้ปกครองในโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ ๑๑ และโครงการเยาวชนไทยในออสเตรเลียคืนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ 6

วันนี้ (5 กรกฎาคม 2560) เวลา 09.00 น. คณะเยาวชนและผู้ปกครองในโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ ๑๑ และโครงการเยาวชนไทยในออสเตรเลียคืนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ 6 เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล เนื่องในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับคณะเยาวชนและผู้ปกครองในโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ ๑๑ และโครงการเยาวชนไทยในออสเตรเลียคืนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ 6 ซึ่งเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของสังคมไทย โดยเฉพาะในช่วงการปฏิรูปประเทศ ที่ต้องอาศัยความสามัคคีเพื่อวางรากฐานให้สังคมไทยพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และมีความมั่นคงในระยะยาว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีรู้สึกยินดีที่ได้เห็นเยาวชนไทยมีสำนึกรักในแผ่นดินเกิดและมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย โดยรัฐบาลมีเจตนารมณ์ที่จะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์สังคมที่ดีมีคุณภาพ และมุ่งมั่นพัฒนาให้เยาวชนไทยเป็นบุคลากรที่มีทั้งคุณธรรมจริยธรรมและความสามาร เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต โดยเฉพาะการบ่มเพาะค่านิยมหลัก 12 ประการ ตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อปลูกฝังและสร้างความตระหนักรู้ถึงคุณค่าความเป็นไทยให้เป็นพลเมืองดี มีความรักเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและคุณธรรม ตลอดจนสร้างภูมิคุ้มกันชีวิตด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาใช้ในการดำเนินชีวิต

นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณเยาวชนและชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลียที่เข้าใจและสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลมาโดยตลอด และยังทำหน้าที่เป็นผู้แทนประเทศไทยในการติดต่อปฏิสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้สังคมโลกรู้จักแง่มุมดีๆ ของประเทศ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศชาติ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวขอบคุณวัดไทยในต่างประเทศ ซึ่งเป็นสถาบันสำคัญในการช่วยปลูกฝังและอบรมวัฒนธรรมไทยอันมีเอกลักษณ์ให้กับเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์และความเป็นไทย ตลอดจนช่วยสืบสานความเป็นไทยไปสู่อนุชนรุ่นต่อ ๆ ไป

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารัฐบาลมีนโยบาย “ชุมชนไทยเข้มแข็ง” เพื่อดำเนินการสนับสนุนกิจกรรมของชุมชนไทยในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และการจัดกิจกรรมให้เยาวชนไทยได้กลับมาประเทศไทยก็ถือเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนไทยเช่นกัน ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่เยาวชนไทยในต่างประเทศได้สัมผัสประเทศไทยจากประสบการณ์โดยตรง ได้เห็นความแตกต่างของวิถีชีวิตของคนเมืองและคนต่างจังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัด แต่ละภูมิภาค ก็มีวิถีชีวิต ความเชื่อ วัฒนธรรมประเพณีที่แตกต่างกันไป จึงขอให้เยาวชนไทยประพฤติตนเป็นคนดีของสังคม มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และมีจิตสำนึกทดแทนคุณแผ่นดินแม่ โดยทุกคนที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับประเทศไทย สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ และเป็นสะพานเชื่อมมิตรภาพระหว่างไทยกับต่างประเทศ ในการสร้างสรรค์ประโยชน์ร่วมกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการศึกษา โดยสนับสนุนให้เยาวชนทุกคนใฝ่หาความรู้ทั้งจากการเรียนรู้ในโรงเรียนและนอกโรงเรียน เพื่อเพิ่มต้นทุนให้กับชีวิตของตนเอง ซึ่งในปีนี้มีคำขวัญวันเด็กว่า “เด็กไทยใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง”

นายกรัฐมนตรียืนยันการดำเนินการปฏิรูปตาม Road Map ทุกๆ ด้าน ในการเตรียมพร้อมให้ประเทศไทยมีประชาธิปไตยที่เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน เพื่อให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นเป็นไปอย่างสมบูรณ์ตามครรลองประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยที่ผ่านมา ความร่วมมือกับต่างประเทศก้าวหน้าไปอย่างดีและมีบุคคลและกลุ่มบุคคลจากสหรัฐอเมริกามาเยือนไทยหลายครั้ง อาทิ คณะนักธุรกิจผู้บริหารบริษัทใหญ่ๆ มาเยือนไทยจาก US-ASEAN Business Council (USABC) ของสหรัฐอเมริกา จำนวน ๓๔ บริษัท ซึ่งภาคเอกชนเหล่านี้มีความเข้าใจในสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทย และต้องการแสวงหาโอกาสทางการค้าและการลงทุนกับไทยเสมอมา เนื่องจากบทบาทสำคัญของประเทศไทยในภูมิภาคอาเซียน และในขณะนี้ รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประเทศตามแนวทาง Thailand 4.0 ที่ต้องอาศัยการปฏิรูปที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของไทย

โอกาสนี้ ผู้แทนเยาวชนไทยแสดงความขอบคุณที่ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจากนายกรัฐมนตรี และมีความประทับใจในอัธยาศัยไมตรีของนายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวยืนยันความประสงค์ที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ต่อไปในอนาคต

นายกรัฐมนตรีให้โอวาทคณะเยาวชนและผู้ปกครองในโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ ๑๑ และโครงการเยาวชนไทยในออสเตรเลียคืนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ 6 วันนี้ (5 กรกฎาคม 2560) เวลา 09.00 น. คณะเยาวชนและผู้ปกครองในโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ ๑๑ และโครงการเยาวชนไทยในออสเตรเลียคืนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ 6 เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล เนื่องในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับคณะเยาวชนและผู้ปกครองในโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ ๑๑ และโครงการเยาวชนไทยในออสเตรเลียคืนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ 6 ซึ่งเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของสังคมไทย โดยเฉพาะในช่วงการปฏิรูปประเทศ ที่ต้องอาศัยความสามัคคีเพื่อวางรากฐานให้สังคมไทยพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และมีความมั่นคงในระยะยาว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีรู้สึกยินดีที่ได้เห็นเยาวชนไทยมีสำนึกรักในแผ่นดินเกิดและมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย โดยรัฐบาลมีเจตนารมณ์ที่จะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์สังคมที่ดีมีคุณภาพ และมุ่งมั่นพัฒนาให้เยาวชนไทยเป็นบุคลากรที่มีทั้งคุณธรรมจริยธรรมและความสามาร เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต โดยเฉพาะการบ่มเพาะค่านิยมหลัก 12 ประการ ตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อปลูกฝังและสร้างความตระหนักรู้ถึงคุณค่าความเป็นไทยให้เป็นพลเมืองดี มีความรักเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและคุณธรรม ตลอดจนสร้างภูมิคุ้มกันชีวิตด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาใช้ในการดำเนินชีวิต นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณเยาวชนและชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลียที่เข้าใจและสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลมาโดยตลอด และยังทำหน้าที่เป็นผู้แทนประเทศไทยในการติดต่อปฏิสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้สังคมโลกรู้จักแง่มุมดีๆ ของประเทศ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศชาติ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวขอบคุณวัดไทยในต่างประเทศ ซึ่งเป็นสถาบันสำคัญในการช่วยปลูกฝังและอบรมวัฒนธรรมไทยอันมีเอกลักษณ์ให้กับเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์และความเป็นไทย ตลอดจนช่วยสืบสานความเป็นไทยไปสู่อนุชนรุ่นต่อ ๆ ไป นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารัฐบาลมีนโยบาย “ชุมชนไทยเข้มแข็ง” เพื่อดำเนินการสนับสนุนกิจกรรมของชุมชนไทยในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และการจัดกิจกรรมให้เยาวชนไทยได้กลับมาประเทศไทยก็ถือเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนไทยเช่นกัน ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่เยาวชนไทยในต่างประเทศได้สัมผัสประเทศไทยจากประสบการณ์โดยตรง ได้เห็นความแตกต่างของวิถีชีวิตของคนเมืองและคนต่างจังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัด แต่ละภูมิภาค ก็มีวิถีชีวิต ความเชื่อ วัฒนธรรมประเพณีที่แตกต่างกันไป จึงขอให้เยาวชนไทยประพฤติตนเป็นคนดีของสังคม มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และมีจิตสำนึกทดแทนคุณแผ่นดินแม่ โดยทุกคนที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับประเทศไทย สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ และเป็นสะพานเชื่อมมิตรภาพระหว่างไทยกับต่างประเทศ ในการสร้างสรรค์ประโยชน์ร่วมกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการศึกษา โดยสนับสนุนให้เยาวชนทุกคนใฝ่หาความรู้ทั้งจากการเรียนรู้ในโรงเรียนและนอกโรงเรียน เพื่อเพิ่มต้นทุนให้กับชีวิตของตนเอง ซึ่งในปีนี้มีคำขวัญวันเด็กว่า “เด็กไทยใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง” นายกรัฐมนตรียืนยันการดำเนินการปฏิรูปตาม Road Map ทุกๆ ด้าน ในการเตรียมพร้อมให้ประเทศไทยมีประชาธิปไตยที่เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน เพื่อให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นเป็นไปอย่างสมบูรณ์ตามครรลองประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยที่ผ่านมา ความร่วมมือกับต่างประเทศก้าวหน้าไปอย่างดีและมีบุคคลและกลุ่มบุคคลจากสหรัฐอเมริกามาเยือนไทยหลายครั้ง อาทิ คณะนักธุรกิจผู้บริหารบริษัทใหญ่ๆ มาเยือนไทยจาก US-ASEAN Business Council (USABC) ของสหรัฐอเมริกา จำนวน ๓๔ บริษัท ซึ่งภาคเอกชนเหล่านี้มีความเข้าใจในสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทย และต้องการแสวงหาโอกาสทางการค้าและการลงทุนกับไทยเสมอมา เนื่องจากบทบาทสำคัญของประเทศไทยในภูมิภาคอาเซียน และในขณะนี้ รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประเทศตามแนวทาง Thailand 4.0 ที่ต้องอาศัยการปฏิรูปที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของไทย โอกาสนี้ ผู้แทนเยาวชนไทยแสดงความขอบคุณที่ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจากนายกรัฐมนตรี และมีความประทับใจในอัธยาศัยไมตรีของนายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวยืนยันความประสงค์ที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ต่อไปในอนาคต

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ