วันนี้ (10 ส.ค. 60) เวลา 11.00 น. นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ (Mr. Sergey Lavrov) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียในโอกาสการเดินทางเยือนไทย พร้อมทั้งยืนยันความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกัน โดยในปีนี้เป็นปีครบรอบ 120 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-รัสเซีย ซึ่งการเยือนไทยของรมว.กต.รัสเซียครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดียิ่งในการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกัน
รมว.กต. รัสเซียกล่าวว่าได้ไปลงนามแสดงความอาลัยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระบรมมหาราชวัง และในโอกาสนี้ประธานาธิบดีปูตินได้ส่งสารถวายพระพรเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ด้วย
ด้านความสัมพันธ์ทางการค้า ไทยและรัสเซียพร้อมผลักดันมูลค่าการค้าทวิภาคีให้เพิ่มขึ้น 5 เท่าภายใน 3 ปี รวมทั้งส่งเสริมให้มีการเพิ่มการลงทุนระหว่างกัน โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้ภาคเอกชนรัสเซียเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรม S-Curve และในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) รวมถึงเชิญชวนให้รัสเซียจัดตั้งศูนย์ซ่อมอากาศยานในประเทศไทยด้วย
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้รัสเซียสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนไทยในรัสเซียในภูมิภาคตะวันออกไกล ซึ่งรมว.กต.รัสเซียแจ้งว่ารัสเซียยินดีให้สิทธิประโยชน์แก่ภาคเอกชนไทยที่ไปลงทุน อย่างไรก็ดีหากมีข้อติดขัดประการใดขอให้แจ้งแก่ทางรัสเซียเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป
นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณที่รัสเซียได้ให้การสนับสนุนการจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EAEU) และหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซียจะใกล้ชิดขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของโอกาสทางเศรษฐกิจไทยในภูมิภาคยูเรเซีย ซึ่งรมว.กต.รัสเซียยินดีผลักดันสมาชิกของสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซียอื่นๆ ให้ทั้งสองฝ่ายสามารถเริ่มกระบวนการศึกษาความเป็นไปได้ และเริ่มการเจรจาการค้าเสรีระหว่างกัน
รมว.กต.รัสเซียเห็นว่าไทยมีบทบาทสำคัญต่อภูมิภาคอาเซียน ซึ่งรัสเซียยินดีเพิ่มพูนปฏิสัมพันธ์กับไทยและอาเซียนในทุกด้าน เพื่อส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป ก่อนจบการสนทนา นายกรัฐมนตรีหวังว่าจะได้มีโอกาสพบปะหารือกับประธานาธิบดีปูติน ในช่วงการประชุม BRICS Summit ครั้งที่ 9 ณ เมืองเซียะเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ในเดือนกันยายนนี้ด้วย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th