วันนี้ (11 สิงหาคม 2560) เวลา 09.00 น. ณ สถานีรถไฟฟ้าเตาปูน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงเตาปูน – บางซื่อ ภายใต้แนวคิด “ร่วมใจ เชื่อมสุข เพื่อประชาชน” โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไปสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอก วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม พลเอก ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นายฤทธิกา สุภารัตน์ รองผู้ว่าการ นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร รฟม. และคณะผู้บริหาร BEM เข้าร่วมในพิธี
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงเตาปูน – บางซื่อ เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างสถานีเตาปูน ของรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) และสถานีบางซื่อ ของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) มีระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร ซึ่ง รฟม.ได้เร่งรัดให้บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ผู้รับจ้างงานติดตั้งระบบรถไฟฟ้า จัดการเดินรถไฟฟ้า และบริหารการเดินรถ ดำเนินงานโครงการโดยเร็วเพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาล จนสามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้ในวันนี้ ซึ่งสามารถย่นระยะเวลาการเดินทางช่วงเตาปูน – บางซื่อ เหลือประมาณ 2 นาที ผู้โดยสารสามารถเดินทางข้ามระบบได้โดยเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีเตาปูน และจ่ายค่าแรกเข้าระบบเพียงครั้งเดียวสำหรับผู้ถือบัตรโดยสาร MRT และ MRT Plus นอกจากนี้ รฟม. ยังคงอัตราค่าโดยสารของสายฉลองรัชธรรมตามโปรโมชั่นอัตราค่าโดยสาร 14 – 29 บาท ในวันทำงาน และโปรโมชั่นค่าโดยสาร 15 บาท ตลอดสาย ในวันเสาร์ – อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2561 นี้
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงเตาปูน – บางซื่อ ตอนหนึ่งว่า ปัญหาการจราจรติดขัดเป็นปัญหาหลักของกรุงเทพมหานคร ทุกคนต้องช่วยเหลือ และเอื้อเฟื่อแบ่งปัน มีน้ำใจในการใช้ถนน ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนที่อาศัยอยู่รอบบริเวณการก่อสร้างรถไฟฟ้า รวมถึงประชาชนที่ต้องใช้เส้นทางสัญจรไปมาได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างทำให้การจราจรติดขัด โดยได้สั่งการให้เร่งแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้สัญจรไปมามากขึ้น และใช้พื้นที่ให้น้อยลง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ประชาชนต้องให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ยอมเสียสละส่วนน้อยเพื่อประโยชน์ของคนส่วนมาก ซึ่งรัฐบาลมีความจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาในภาพรวมของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ลดความเหลือมล้ำในการเดินทาง ลดเวลาให้สั้นลง ให้ประชาชนสะดวกสะบายมากขึ้น รวมทั้ง เมื่อระบบขนส่งเชื่อมโยงมากขึ้น ก็จะทำให้ส่งผลต่อการลงทุนภายในประเทศมากขึ้น ในช่วงแรกรัฐบาลจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการลงทุนไปก่อนเพื่อนำร่องโครงการก่อสร้าง และให้ภาคเอกชนมาลงทุนดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือภาคเอกชนให้คำนึงถึงประชาชนเป็นหลักอย่าหวังแต่ผลประกอบการอย่างเดียว
พร้อมกล่าวยืนยัน ว่างบประมาณที่ใช้ในการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงเตาปูน – บางซื่อ เป็นไปอย่างถูกต้อง เพราะมีความจำเป็น และถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาให้เกิดความเชื่อมโยง พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความห่วงใยเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมแผนเผชิญเหตุรองรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยให้จัดสถานที่ให้ผู้โดยสารพักรอ เพื่อผ่อนคลายความตรึงเครียด และให้เร่งแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุที่สถานีหยุดรถจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงมงคล เป็นปีมหามงคล ช่วงวันแม่ และที่ผ่านมาเป็นเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทั้งสองพระองค์ได้พระราชทานความห่วงใยมาในทุก ๆ เรื่อง รวมถึงพระราโชบายในหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติด้วยอย่างต่อเนื่องตลอดไปตราบนานเท่านาน ขอให้ทุกคนยึดมั่นในหลักชัยของประเทศ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และของรัฐบาล คือ ประชาชนจะต้องอยู่ในใจของรัฐบาลเสมอในการทำงาน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th