วันนี้ เวลา 10.15 น. ณ. ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคูฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอู เมียว เมี้ยน เอกอัครราชทูตสหภาพพม่าประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายหลังกล่าวต้อนรับ ได้มีการสนทนาสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีกับนายอู เมียว เมี้ยน ที่ได้มาดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหภาพพม่าประจำประเทศไทย พร้อมทั้งขอให้เอกอัครราชทูตสหภาพพม่าได้รายงานให้รัฐบาลพม่าได้ทราบถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลไทยที่จะพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือกับสหภาพพม่าในทุกๆด้านทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่าความเข้าใจและพันธมิตรที่ดีต่อกันนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะทั้งสองประเทศจะต้องอยู่ด้วยกันตลอดไปในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่มีอาณาเขตติดกัน หากมีความเข้าใจผิด หรือไม่ตรงกันจะต้องรีบหารือและทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน และความเข้าใจอันดีนี้จะนำไปสู่การแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น อีกทั้งเป็นพื้นฐานของการพัฒนาระหว่างสองประเทศด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากความร่วมมือในการปักปันเขตแดนที่นับว่าสามรถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและบรรลุผลนับตั้งแต่ที่ได้มีการ พบปะ และหารือกัน และในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ย้ำการเชิญพลเอกอาวุโส ตานฉ่วย ประธานสภาสันติภาพและพัฒนาแห่งรัฐและนายกรัฐมนตรีแห่งสหภาพพม่า เยือนประเทศไทยในโอกาสแรกที่สะดวกด้วย
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตสหภาพพม่าได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้โอกาสเข้าเยี่ยมคารวะในวันนี้ และได้กล่าวถึงการมาปฏิบัติภารกิจเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยว่า เพื่อสานต่อความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีในทุกๆด้านเพื่อประโยชน์แก่ประเทศทั้งสอง นอกจากนี้ นายอู เมียว เมี้ยน ได้กล่าวชื่นชมในความสำเร็จของนายกรัฐมนตรีในการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับสหภาพพม่า โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลา 5 เดือนที่ได้มาดำรง ตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยนั้นได้เห็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วและเห็นผลเป็นรูปธรรม ซึ่งถือว่าเป็นผลจากทัศนคติที่ดีของนายกรัฐมนตรีและความจริงใจที่มีต่อพม่า ทั้งนี้ รัฐบาลพม่ายินดีให้ความร่วมมือกับไทยด้วยความจริงใจเช่นกัน
--ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักโฆษก โทรภายใน 8055 โทร 0 2629 9292, 0 2629 9491 โทรสาร 0 2281 4450--
-สส-
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีกับนายอู เมียว เมี้ยน ที่ได้มาดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหภาพพม่าประจำประเทศไทย พร้อมทั้งขอให้เอกอัครราชทูตสหภาพพม่าได้รายงานให้รัฐบาลพม่าได้ทราบถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลไทยที่จะพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือกับสหภาพพม่าในทุกๆด้านทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่าความเข้าใจและพันธมิตรที่ดีต่อกันนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะทั้งสองประเทศจะต้องอยู่ด้วยกันตลอดไปในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่มีอาณาเขตติดกัน หากมีความเข้าใจผิด หรือไม่ตรงกันจะต้องรีบหารือและทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน และความเข้าใจอันดีนี้จะนำไปสู่การแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น อีกทั้งเป็นพื้นฐานของการพัฒนาระหว่างสองประเทศด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากความร่วมมือในการปักปันเขตแดนที่นับว่าสามรถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและบรรลุผลนับตั้งแต่ที่ได้มีการ พบปะ และหารือกัน และในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ย้ำการเชิญพลเอกอาวุโส ตานฉ่วย ประธานสภาสันติภาพและพัฒนาแห่งรัฐและนายกรัฐมนตรีแห่งสหภาพพม่า เยือนประเทศไทยในโอกาสแรกที่สะดวกด้วย
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตสหภาพพม่าได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้โอกาสเข้าเยี่ยมคารวะในวันนี้ และได้กล่าวถึงการมาปฏิบัติภารกิจเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยว่า เพื่อสานต่อความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีในทุกๆด้านเพื่อประโยชน์แก่ประเทศทั้งสอง นอกจากนี้ นายอู เมียว เมี้ยน ได้กล่าวชื่นชมในความสำเร็จของนายกรัฐมนตรีในการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับสหภาพพม่า โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลา 5 เดือนที่ได้มาดำรง ตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยนั้นได้เห็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วและเห็นผลเป็นรูปธรรม ซึ่งถือว่าเป็นผลจากทัศนคติที่ดีของนายกรัฐมนตรีและความจริงใจที่มีต่อพม่า ทั้งนี้ รัฐบาลพม่ายินดีให้ความร่วมมือกับไทยด้วยความจริงใจเช่นกัน
--ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักโฆษก โทรภายใน 8055 โทร 0 2629 9292, 0 2629 9491 โทรสาร 0 2281 4450--
-สส-