รัฐบาลแจงกรณีโยกย้าย ผอ.สำนักพุทธ เพื่อความเหมาะสมและตอบสนองงานสำคัญของชาติให้สำเร็จ ย้ำทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนทางราชการ เชื่อมั่นยุติเรื่องได้เรียบร้อยในเร็ววันนี้
รัฐบาลแจงกรณีโยกย้าย ผอ.สำนักพุทธ เพื่อความเหมาะสมและตอบสนองงานสำคัญของชาติให้สำเร็จ ย้ำทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนทางราชการ เชื่อมั่นยุติเรื่องได้เรียบร้อยในเร็ววันนี้
วันที่ 8 กันยายน 2560 พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่ พ.ต.ท. พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ทำหนังสือแย้งความเห็นของ รมต.นร. (นายออมสิน ชีวะพฤกษ์) ที่อนุญาตให้ไปช่วยราชการสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เป็นการชั่วคราว ตามที่ สปน.ร้องขอยืมตัวไปช่วยราชการ ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค.60 เป็นต้นไป จนกว่าจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่ง ผอ.พศ. และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่ายังไม่มีคำสั่งที่เป็นทางการจากผู้บังคับบัญชา นั้น
“ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 220/2560 ลงวันที่ 8 ก.ย.60 ให้ พ.ต.ท.พงศ์พร ไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปแล้ว จึงนับว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินอย่างถูกต้องแล้วทุกประการ”
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปเพื่อความเหมาะสม เพราะระหว่างนี้ พศ. มีภารกิจสำคัญ 4 เรื่องที่ต้องทำให้สำเร็จ ซึ่งต้องมีผู้นำหน่วยที่ได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากคณะสงฆ์ หน่วยงานภายนอก และเจ้าหน้าที่ใน พศ.เอง รวมทั้งทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนได้อย่างใกล้ชิดและเป็นไปด้วยความราบรื่น โดยภารกิจสำคัญประกอบด้วย 1) เป็นเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) 2) ปราบปรามการทุจริต ที่ต้องตรวจสอบทั้งคนใน พศ.ไปจนถึงระดับวัดและชาวบ้าน 3) จัดศาสนพิธีในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ รัชกาลที่ 9 ร่วมกับกรมการศาสนา 4) แก้ไขปัญหาที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่ พศ. มส. ตำรวจ และกรมที่ดิน ต้องทำงานร่วมกัน โดยช่วงนี้จะให้นายกนก แสนประเสริฐ รอง ผอ.พศ.รักษาการแทนไปพลางก่อน
ส่วนกรณีที่ สปน.มอบหมายให้ พ.ต.ท.พงศ์พร รับผิดชอบดูแลเขตตรวจราชการที่ 8 ของสำนักนายกรัฐมนตรี 5 จังหวัด ได้แก่ จ.สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส นั้น เป็นการแบ่งงานภายใน สปน. โดยได้แบ่งงานจากผู้ตรวจคนหนึ่งที่ต้องดูแลรับผิดชอบถึง 2 เขตตรวจราชการ ซึ่งการปฏิบัติงานจริงนั้นจะอยู่ที่ กทม. เป็นหลัก เพราะต้องประสานงานกับผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานในส่วนกลางที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบงานและปัญหาในแต่ละเรื่อง ส่วนการลงพื้นที่ตรวจราชการนั้นเป็นไปตามความเหมาะสมและจำเป็น
“ท่านนายกฯ ระบุว่า พ.ต.ท.พงศ์พร เป็นข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ดี และมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน จึงเชื่อว่าจะมีความเข้าใจเหตุผลและขั้นตอนทุกอย่างเป็นอย่างดี ทั้งนี้ นายกฯ ได้รับรายงานจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องดังกล่าวจะยุติลงด้วยดีในเร็ววันนี้ และไม่กระทบต่อภารกิจสำคัญของ พศ. ที่ต้องดำเนินการให้ลุล่วงต่อไป”
ที่มา: http://www.thaigov.go.th