รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมาเลเซียคนที่สองเข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรี
วันนี้ (23 สิงหาคม 2560) เวลา 13.00 น. ดาโต๊ะ ซรี โจฮารี บิน อับดุล กาห์นิ (Datuk Seri Johari bin Abdul Ghani) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมาเลเซียคนที่สอง เข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีแสดงความยินที่ได้ต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมาเลเซียคนที่สองและคณะผู้บริหารชมรมธุรกิจกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur Business Club - KLBC) เยือนไทย ซึ่งเป็นโอกาสอันดีในการหารือแนวทางส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับมาเลเซีย นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรียังกล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสิ้นพระชนม์ของสุลต่านแห่งรัฐเกดะห์ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2560 รวมทั้งต่อเหตุการณ์ไฟไหม้โรงเรียนสอนศาสนาที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่มีผู้เสียชีวิต 25 ราย ในช่วงเช้าวันนี้ (14 กันยายน 2560)
ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ รองนายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ทั้งสองประเทศเป็นคู่ค้าที่สำคัญระหว่างกัน โดยมาเลเซียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทย ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีประสงค์ให้ทั้งสองฝ่ายยกระดับการค้าระหว่างกันให้เพิ่มสูงมากขึ้น ด้านการท่องเที่ยว รองนายกรัฐมนตรีแสดงความประทับใจที่มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางมาไทย โดยเฉพาะภาคใต้ คิดเป็นอันดับ 2 รองจากจีน และเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางมาเที่ยวไทยในภาคอื่น ๆ ของไทยบ้าง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมาเลเซียคนที่สองแสดงความชื่นชมและประทับใจในสถานที่ท่องเที่ยวของไทยทั่วประเทศ ความเชื่อมโยง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมาเลเซียคนที่สองกล่าวว่า ทั้งสองประเทศควรเพิ่มความเชื่อมโยงระหว่างกันให้มากขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อมโยงระหว่างภาคใต้ของไทยและภาคเหนือของมาเลเซีย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการขนส่ง การค้าการลงทุน ตลอดจนการไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศมากยิ่งขึ้น
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องในการสนับสนุนความร่วมมือผ่านแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle: IMT-GT) เพื่อผลักดันการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในลักษณะไตรภาคี ระหว่างภาคใต้ของไทย ภาคเหนือของมาเลเซีย และพื้นที่บนเกาะสุมาตรา ของอินโดนีเซีย นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวสนับสนุนบทบาทของภาคธุรกิจมาเลเซียที่จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน ซึ่งจะเป็นการเน้นย้ำความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศ พร้อมหวังว่ามาเลเซียจะสนับสนุนและผลักดันให้ภาคเอกชนของมาเลเซียเข้ามาลงทุนในโครงการสำคัญของรัฐบาลไทย อาทิ โครงการเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาค
ที่มา: http://www.thaigov.go.th