วันนี้ (20 ก.ย.60) เวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2560 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วมประชุมด้วย
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า ที่ประชุม ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้กล่าวว่าต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในการนำผลการวิจัยและนวัตกรรมมาใช้ประโยชน์ รวมทั้งนำผลงานวิจัยที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาสังคมและการส่งเสริมการแข่งขันด้านเศรษฐกิจมาขับเคลื่อนให้เห็นผลโดยเร็วภายในปีนี้ รวมถึงเรื่องขององค์ความรู้ด้านวิชาการ โดยมอบหมายให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันเร่งดำเนินการดังกล่าวเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตามแผนและเป้าหมายที่กำหนดไว้ พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่างยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ตามนโยบายรัฐบาล ภายใต้การกำหนดวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยใช้การวิจัยและนวัตกรรมเป็นกำลังอำนาจแห่งชาติ เพื่อก้าวไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วภายใน 20 ปี ด้วยความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ประกอบดด้วย 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ยุทธศาสตร์ที่ 2 การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม ยุทธศาสตร์ที่ 3 การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการสร้างองค์ความรู้พื้นฐานของประเทศ และยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากร และระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ
รวมทั้งเห็นชอบร่างแผนกลยุทธ์การพัฒนาบุคลากรวิจัยและนวัตกรรม ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) โดยมีแผนกลยุทธ์ 3 ข้อ ดังนี้ 1) ขับเคลื่อนเศรษฐกิจนวัตกรรมด้วยบุคลากรวิจัยและนวัตกรรมระดับหัวรถจักร 2) พัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีรองรับภาคการผลิตและบริการด้วยบุคลากรวิจัยและนวัตกรรมคุณภาพสูง และ 3) เตรียมความพร้อมเข้าสู่เศรษฐกิจฐานความรู้ในอนาคตด้วยการขยายฐานบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อีกทั้งเห็นชอบร่างแนวทางการจัดสรรงบประมาณการวิจัยและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ 2562 ซึ่งจะต้องไปดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการให้ละเอียดชัดเจนเพื่อจะได้สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป โดยนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำให้มีการพัฒนาคนให้สอดคล้องและตรงกับความต้องการในการพัฒนาประเทศได้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติการวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... ซึ่งพระราชบัญญัติดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสภานโยบายฯ และการตั้งสำนักงานใหม่ โดยสำนักงานใหม่เรียกได้ 2 ชื่อ คือ “ สำนักงานการวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ” หรือ “สำนักงานสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ” จัดตั้งเป็นการชั่วคราวในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ไปดูในเรื่องโครงสร้าง ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี และพิจารณาบุคคลที่เหมาะสมในการทำหน้าที่เลขาฯ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านในการปรับปรุงบทบาทหน้าที่ และโครงสร้างภารกิจหน่วยงานให้สอดคล้องตามแนวทางในพระราชบัญญัติการวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อปรับปรุงแก้ไขรายละเอียดเพิ่มเติมให้ชัดเจน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณไม่เกิน 60 วัน ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งที่ประชุมเห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. ....
-------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th