ภายหลังการประชุมเวลาประมาณ 12.00 น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้แถลงสรุปผลการประชุมฯ ๆ ดังนี้
หลังจากที่สำนักพระราชวังได้ออกประกาศเรื่องการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ ได้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2560 นี้ โดยทางคณะทำงานฯ ที่เกี่ยวข้องจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อมในการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ณ มณฑลพิธีสนามหลวงนั้น เพื่อให้มีความพร้อมและสมบูรณ์ที่สุด ทั้งนี้ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบจะเข้าไปปรับปรุงพื้นที่และปรับผิวการจราจรของถนนโดยรอบบริเวณพระราชพิธีฯ ทั้งหมด พร้อมตกแต่งสนามหญ้า ปรับภูมิทัศน์และปลูกไม้ดอกไม้ประดับใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนดไว้ และจะมีการซ้อมริ้วขบวนเสมือนจริงในวันที่ 7 และ 15 รวมทั้ง 21 ตุลาคม 2560 ตามลำดับ
นอกจากนี้ ในส่วนของความคืบหน้าของการดำเนินการจัดสร้างพระเมรุมาศจำลองทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้วกว่าร้อยละ 50 - 70 ส่วนในพื้นที่บริเวณกรุงเทพมหานครนั้นจะมีพระเมรุมาศจำลองทั้งหมด 9 แห่งโดย 4 แห่งอยู่บริเวณ 4 มุมเมือง อีก 4 แห่งอยู่ โดยรอบท้องสนามหลวง และอีก 1 แห่งอยู่ที่บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต พร้อมจะมีการจัดซุ้มดอกไม้จันทน์ขนาดใหญ่รวมทั้งหมด 16 แห่ง ขนาดกลาง 26 แห่ง เช่นเดียวกับในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศซึ่งจะมีซุ้มดอกไม้จันทน์และพระเมรุมาศจำลอง ให้ประชาชนร่วมถวายดอกไม้จันทน์ไปพร้อมเพรียงกันทั่วทั้งประเทศ พร้อมกันนี้ ภายหลังพระราชพิธีฯ แล้วเสร็จในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ทางสำนักพระราชวังจะเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้เข้าชมพระเมรุมาศจริง ณ มณฑลพิธีสนามหลวงตั้งแต่วันที่ 1 - 30 พฤศจิกายน 2560 อีกทั้งในวันที่ 26 กันยายน 2560 จะเชิญสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศมารับฟังการแถลงข่าวเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเรื่องขั้นตอนการนำเสนอข่าวและการถ่ายทอดสดของพระราชพิธีฯ อีกด้วย
************************************
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th