โฆษกรัฐบาลขอความร่วมมือสื่อฯ ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนเกี่ยวกับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ข่าวทั่วไป Wednesday October 11, 2017 16:03 —สำนักโฆษก

โฆษกรัฐบาลขอความร่วมมือสื่อฯ ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนเกี่ยวกับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ป้องกันการตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดี

วันนี้ ( 10 ต.ค. 60 ) เวลา 14.50 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชี้แจงต่อกรณีมีกระแสข่าวและการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวข้องกับการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการดูแลประชาชนฐานรากโดยเฉพาะประชาชนผู้มีรายได้น้อยตามนโยบายรัฐบาล ใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1) มีการใช้บัตรสวัสดิการฯ ไปแลกเงินสดและมีการหักค่าหัวคิวแทนการนำบัตรไปรูดชื้อสิ่งของอุปโภคบริโภค 2) ระบุว่าสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการดังกล่าวกรณีจำนวนเงินในบัตรฯ 300 บาท/ราย และ 200 บาท/ราย ตามรายได้ของประชาชน จะไปเข้ากระเป๋าของเจ้าของกิจการที่นำสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ มาจำหน่ายให้กับประชาชนผ่านร้านธงฟ้า และ3) ประชาชนที่มีบัตรสวัสดิการฯ ไม่สามารถที่จะกู้เงินจากธนาคารต่าง ๆ ได้ ว่า การเผยแพร่ข้อมูล ดังกล่าวเป็นความพยายามของผู้ที่ต้องทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล จึงขอให้สื่อมวลชนได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนเพื่อให้สังคมได้มีความรู้และความเข้าใจว่าการดำเนินการในสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรัฐบาลปัจจุบันมีความพยายามในการที่จะแก้ไขปัญหาในอดีตที่ผ่านมาซึ่งมีการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยแบบเหมารวมหรือถัวเฉลี่ย เช่น กรณีรถเมล์ฟรี เป็นต้น ทำให้การช่วยเหลือประชาชนไม่ตรงกับบุคคลและกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง ทั้งนี้ในส่วนกระแสข่าวและการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับบัตรสวัสดิการฯ กรณีประเด็นการใช้บัตรสวัสดิการฯ ไปแลกเงินสดและมีการหักค่าหัวคิวแทนการนำบัตรไปรูดชื้อของอุปโภคบริโภคนั้น โฆษกรัฐประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชี้แจ้งว่า อาจจะมีบางคนที่กระทำการในลักษณะเช่นนี้ ซึ่งหากประชาชนพบเห็นหรือมีข่าวสารการกระทำในลักษณะดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นร้านธงฟ้าที่ไปเกี่ยวข้องหรือเจ้าหน้าที่ที่ให้ข้อมูลในลักษณะที่เอื้อประโยชน์ สามารถแจ้งมายังรัฐบาลได้ทันที โดยรัฐบาลจะดำเนินการตรวจสอบและลงโทษผู้กระทำผิดและทุจริตอย่างเต็มที่ เพื่อให้โครงการนี้เกิดประโยชน์และแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง

สำหรับประเด็นที่ 2 ซึ่งระบุว่าสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการกรณีเงินในบัตรฯ จะไปเข้ากระเป๋าของเจ้าของกิจการที่นำสินค้าอุปโภคบริโภคมาจำหน่ายที่ร้านธงฟ้านั้น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงเพราะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากร้านธงฟ้าในปัจจุบันหรือร้านที่ผูกพันตามกฎ กติกาของกระทรวงพาณิชย์ที่ประชาชนสามารถนำบัตรสวัสดิการฯ ไปใช้ซื้อสินค้าได้กับร้านต่าง ๆ ได้นั้น ขณะนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวจำนวน 20 กว่าราย มีรายการสินค้ากว่า 40 รายการ และมีประเภทสินค้าประมาณทั้งสิ้น 300 กว่าแล้ว ขณะเดียวกันได้รับทราบรายงานจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่ามีผู้ประกอบการจากภาคหลายส่วนทั้งบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ วิสาหกิจชุมชน กลุ่มสถาบันเกษตรกรซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนภาคเกษตร กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ฯลฯ สนใจเข้ามาร่วมโครงการนี้เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับประชาชนได้เลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวนมากและหลากหลายมากขึ้น

ขณะที่กรณีระบุว่าบุคคลใดที่มีบัตรสวัสดิการฯ จะไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารต่าง ๆ ได้นั้น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า เมื่อพิจารณาจากฐานเงินของผู้มีบัตรสวัสดิการฯ จะต้องมีรายได้น้อยกว่า 1 แสนบาท/ปี หรือน้อยกว่า 3 หมื่นบาท/ปี ซึ่งโดยปกติการที่บุคคลดังกล่าวจะกู้เงินกับธนาคารต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการที่ไม่ได้รับการอนุมัติให้กู้เงินจึงไม่เกิดจากโครงการบัตรสวัสดิการฯ แต่อย่างใด แต่เป็นกฎ กติกาที่แต่ละธนาคารต้องการความเชื่อมั่นในการปล่อยสินเชื่อ อย่างไรก็ตามที่ประมาณ 6 -7 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลโดยคณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติอนุมัติให้ธนาคารออมสิน ปล่อยกู้เงินให้กับประชาชนที่ไม่มีรายได้ประจำ เช่น ผู้ประกอบอาชีขายก๋วยเตี๋ยว หมูปิ้ง หรือผู้ประกอบการร้านอาหารตามสั่งต่าง ๆ สามารถที่จะกู้เงินได้เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นโดยที่ไม่ต้องมีหลักในการค้ำประกันจำนวนมาก ดังนั้นจึงไม่ได้หมายความว่าผู้ที่มีรายได้น้อยจะไม่สามารถกู้เงินได้ตลอดไป แต่สามารถกู้เงินได้กับโครงการอื่น ๆ ที่รัฐบาลดำเนินการในการที่จะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น

----------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ