วันนี้ (14 ตุลาคม 2560) พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด สำนักโฆษกประจำนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีเตรียมประกาศวันเลือกตั้งในเดือน มิ.ย.61 พร้อมจัดให้มีการเลือกตั้งในเดือน พ.ย.61 ว่า ไม่อยากให้มองว่าการเลือกตั้งเป็นปัจจัยเดียวที่ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัว เพราะที่ผ่านมานักลงทุนไทยและต่างประเทศต่างมีความเชื่อมั่นในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ทั้งการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและการออกนโยบายปฏิรูปประเทศหลายด้าน ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานและสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศในระยะยาว รวมถึงตลาดหุ้นด้วย
“นายกฯ ยินดีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสามารถพัฒนาการบริหารจัดการจนเป็นที่ยอมรับในระดับโลก โดยก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 10 ของตลาดหลักทรัพย์ที่มีความยั่งยืนจากทั่วโลก และเป็นตลาดหลักทรัพย์ของเอเชียรายเดียวที่ติดใน 10 อันดับแรก จากรายงานการวิจัย Measuring Sustainability Disclosure 2017 โดย Corporate Knights และ AVIVA โดยนับเป็นความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดจากเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ที่ถูกจัดอันดับอยู่ที่ 40”
นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้รับความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนร่วมขับเคลื่อนไปสู่ความยั่งยืน โดยส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูลและรับผิดชอบต่อสังคมในทุกมิติ ซึ่งเป็นตามมาตรฐานสากล เช่น อัตราการลาออกของพนักงาน การใช้พลังงาน การใช้น้ำ การจัดการของเสีย การจัดการก๊าซเรือนกระจก อัตราการบาดเจ็บจากการทำงาน และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน
“นายกฯ ไม่อยากให้มองว่า ตลาดหุ้นเป็นเรื่องเฉพาะของคนที่มีฐานะเท่านั้น เพราะการประกอบธุรกิจของบริษัทจดทะเบียนในตลาดทุนทั้งหลายมีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับประชาชนหลายสาขาอาชีพ ตั้งแต่ผู้ประกอบการทุกระดับไปจนถึงเกษตรกรจำนวนมากที่อยู่ในห่วงโซ่นี้ และนอกจากจะเป็นแหล่งระดมทุนของผู้ประกอบกิจการแล้ว ยังเป็นช่องทางการออมและสร้างดอกผลจากการลงทุนของประชาชนทุกคนได้อีกด้วย”
สำหรับ 10 อันดับแรกของตลาดหลักทรัพย์ที่มีความยั่งยืนของโลก ได้แก่ 1. ตลาดหลักทรัพย์เฮลซิงกิ ฟินแลนด์ 2. ตลาดหลักทรัพย์สตอกโฮล์ม สวีเดน 3. ตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซ์-ปารีส ฝรั่งเศส 4. ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน อังกฤษ 5. ตลาดหลักทรัพย์ออสโล นอร์เวย์ 6. ตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซ์-อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ 7. ตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย 8. ตลาดหลักทรัพย์โคเปนเฮเกน เดนมาร์ก 9. ตลาดหลักทรัพย์ฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ และ 10. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th