วันนี้ (30 ตุลาคม 2560) เวลา 9.00 น. ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี ชั้น 2 อาคารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมาย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) ครั้งที่ 6/2560
หลังเลิกการประชุมเวลาประมาณ 12.00 น. นายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติในฐานะกรรมการและเลขานุการ กทบ. ได้แถลงข่าวสรุปผลการประชุมฯ ดังนี้
ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบอนุมัติงบประมาณสนับสนุนให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจากทุกจังหวัดทั่วประเทศได้ขับเคลื่อนโครงการเพิ่มศักยภาพ หมู่บ้านและชุมชนเพื่อความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ จำนวน 5,768 กองทุน 6,027 โครงการ ในวงเงินงบประมาณ 1,151,863,496 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อรวมกับการอนุมัติทุกครั้งที่ผ่านมาแล้ว คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติได้อนุมัติงบประมาณสนับสนุนให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั่วประเทศในการขับเคลื่อนโครงการเพิ่มศักยภาพหมู่บ้านและชุมชนเพื่อความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐไปแล้ว จำนวน 61,161 กองทุน ในวงเงิน 12,593,804,531 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 84.97 ของเป้าหมายทั้งหมด และภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะสามารถอนุมัติงบประมาณสนับสนุนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั่วประเทศ เพื่อการขับเคลื่อนการดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพหมู่บ้านและชุมชนเพื่อสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐของรัฐบาลได้ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 90 ของเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการ สทบ. ได้กล่าวถึงโครงการอบรมผู้นำและโฆษกอาสาประชารัฐว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการผู้นำและโฆษกอาสาประชารัฐ โดยจะจัดอบรมผู้แทนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทุกตำบล โครงการละ 8,000 คน ภายในระยะเวลา 6 - 8 เดือน ด้วยการคัดเลือกผู้เข้ารับการอบรมมาจากทุกตำบลทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะให้ผู้นำอาสาประชารัฐไปช่วยเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีศักยภาพในหมู่บ้านและชุมชน ด้วยการอบรมความรู้ทางด้านกฎหมาย การเงิน เทคโนโลยีและธุรกิจ ให้สามารถไปถ่ายทอด และกระตุ้นการพัฒนากองทุนหมู่บ้านและชุมชน ให้มีความเข้มแข็งมั่นคง และก้าวเข้าสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อรองรับนโยบาย Thailand 4.0 และยุทธศาสตร์ของรัฐบาลได้อย่างเป็นรูปธรรม และคาดหวังให้โฆษกอาสาประชารัฐจะไปเป็นผู้สร้างและประสานความเข้าใจ และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกกองทุนฯ ประชาชน หน่วยงานภาคี และรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยประเด็นสำคัญคือจะจัดปฐมนิเทศผู้เข้ารับการอบรม ทั้ง 2 โครงการร่วมกันด้วยองค์ความรู้ในเรื่องศาสตร์พระราชา เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมทั้ง 2 โครงการได้ยึดมั่นและนำศาสตร์พระราชาไปใช้ ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาตามบทบาทหน้าที่ได้อย่างมีคุณภาพและมีคุณธรรม
พร้อมกันนี้ ผู้อำนวยการ สทบ. ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ สนับสนุนการดำเนินงานสร้างความเข้มแข็งในการบริหารจัดการน้ำชุมชนของมูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ด้วยการให้ความร่วมมือกับโครงการและขยายผลตัวอย่างความสำเร็จ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของมูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ด้วยการนำตัวอย่างความสำเร็จของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ของชุมชนตัวอย่างมาถ่ายทอดให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ได้เรียนรู้และนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ในหมู่บ้านและชุมชนอีกประมาณ 1,600 แห่ง พร้อมมีมติเห็นชอบให้สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ได้สนับสนุนการดำเนินงานพัฒนาหมู่บ้านด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีที่เหมาะสมตามโครงการหมู่บ้านวิทย์ แนวคิดศาสตร์พระราชา มาถ่ายทอดให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่มีความพร้อมและความต้องการได้นำไปใช้ปฏิบัติใน 4 ด้าน คือ นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เกษตรครบวงจร หมู่บ้านท่องเที่ยววิถีวิทย์ ภูมิปัญญาผ้าทอพื้นเมืองด้วยนวัตกรรม พร้อมการพัฒนาหมู่บ้านวิถีวิทย์และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองเข้าร่วมโครงการเพื่อพัฒนาตามแนวทางหมู่บ้านวิทย์ แนวคิดศาสตร์พระราชาได้ไม่น้อยกว่า 400 กองทุน ซึ่ง นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติได้มีความเห็นว่าการให้ความร่วมมือกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์ในโครงการขยายผลตัวอย่างความสำเร็จเพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืนและความร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในโครงการพัฒนาหมู่บ้านด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมนั้น จะเป็นโครงการตัวอย่างในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ ด้วยกลไกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างเป็นรูปธรรมได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของหมู่บ้านและชุมชนดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
*****************************************************
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th