วันนี้(1 พ.ย. 2560) เวลา 13.30 น. คณะผู้บริหาร บริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด นำโดยนายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด และนายริชาร์ด หลิว ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจดีดอทคอม จำกัด เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับในนามของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ได้พบกับนายริชาร์ด หลิว ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจดีดอทคอม จำกัด และ นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด พร้อมคณะผู้บริหาร บริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด นายกรัฐมนตรียินดีที่ทราบว่าบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด และบริษัท เจดีดอทคอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทดำเนินกิจการค้าปลีกขนาดใหญ่ของไทยและจีนได้ทำสัญญาร่วมทุนกันเป็นบริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด ซึ่งนอกจากจะมีส่วนช่วยส่งเสริมและผลักดันการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E – Commerce) ของไทยเพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทยให้ก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคตแล้ว ยังช่วยส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทย – จีนให้ครอบคลุมและใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรียังชื่นชมการบริหารงานของบริษัทฯ ที่ใช้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมาใช้ในการค้าขาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจ E-commerce เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการ SMEs และธุรกิจ Startup นายกรัฐมนตรีขอให้บริษัทฯ แบ่งปันประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่เป็นประโยชน์ของบริษัทฯ เพื่อส่งเสริม SMEs และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทย รวมถึงการสนับสนุนการพัฒนาการเรียนรู้ของบุคลากรไทย และพิจารณายกระดับสินค้าเกษตรของไทยสู่ตลาดโลก เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ภาคการเกษตรและท้องถิ่น
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจดีดอทคอม จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ร่วมลงทุนบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้าว่าอีก 3 ปี จะเพิ่มมูลค่าการลงทุนเป็น 1 แสนล้านบาท และบริษัทฯ มีแผนที่จะจัดตั้งสำนักงานใหญ่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และยินดีพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs และยินดีช่วยเหลือเกษตรกรไทยโดยนำสินค้าเกษตรจากไทยไปจำหน่ายสินค้าและสินค้าเกษตรผ่านระบบ E-Commerce ไปยังอาเซียนและตลาดโลก ด้านนายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดี และกล่าวว่า การลงทุนของภาคเอกชนในโครงการ EEC จะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยและสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมเชื่อมโยงไปยังประเทศอื่นๆในภูมิภาค
ที่มา: http://www.thaigov.go.th