วันนี้ (14 พ.ย. 60) เวลา 10.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในการประชุมสุดยอดอาเซียน-แคนาดา สมัยพิเศษ ในโอกาสครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-แคนาดา ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติฟิลิปปินส์ (PICC) กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับการครบรอบ 40 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-แคนาดา การครบรอบ 150 ปีของการสถาปนาแคนาดา และการครบรอบ 50 ปีการก่อตั้งอาเซียน พร้อมชื่นชมนายกรัฐมนตรีทรูโดฯ ที่เพิ่มความสำคัญต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ และได้แต่งตั้งเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตาคนแรกเมื่อปีที่ผ่านมา รวมทั้ง จัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อาเซียน-แคนาดา
อาเซียนและแคนาดาควรเร่งเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องสำคัญที่อาเซียนและแคนาดาสามารถร่วมกันเสริมสร้างให้เกิด “การเจริญเติบโตเขียว” (green growth) ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นายกรัฐมนตรีมุ่งหวังว่า อาเซียนและแคนาดาจะได้เริ่มขยายความร่วมมือในส่วนนี้เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ การสร้างประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง นับเป็นหัวใจสำคัญของการส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในอาเซียน และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์อาเซียน 2025 ซึ่งการส่งเสริมศักยภาพสตรี โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้สตรีเป็นพลังการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืนจะส่งเสริมการบรรลุวิสัยทัศน์อาเซียนและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนอีกทั้งยังสอดคล้องกับที่แคนาดาให้ความสนใจในเรื่องสิทธิของสตรีและเด็ก ผู้นำอาเซียนได้รับรองวาระการดำเนินงานในการสร้างความตระหนักในเรื่องการส่งเสริมขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของสตรีในอาเซียน ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเด็นดังกล่าวต่อไป
ทั้งนี้อาเซียนยินดีที่แคนาดาสนับสนุนอาเซียนในฐานะแกนกลางของโครงสร้างสถาปัตยกรรมในภูมิภาค และเห็นว่า อาเซียนและแคนาดาควรร่วมกันพัฒนาและส่งเสริมระบบภูมิภาคนิยมและพหุภาคีนิยมบนพื้นฐานของหลักกฎหมายระหว่างประเทศและผลประโยชน์ร่วมกัน
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรียินดีที่ทราบว่า อาเซียนพร้อมจะเริ่มกระบวนการหารือแนวทางความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-แคนาดา (ASEAN-Canada FTA) ซึ่งก้าวดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนกับแคนาดาให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น พร้อมขอบคุณแคนาดาที่ส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนและวัฒนธรรม โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษา ตลอดจนการให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนในประเทศอาเซียน เหล่านี้จะช่วยให้ประชาคมอาเซียนมีศักยภาพมากยิ่งขึ้นพร้อมรับมือการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (Fourth Industrial Revolution)
ที่มา: http://www.thaigov.go.th