วันนี้ (28 พฤศจิกายน 2560) เวลา 14.35 น. ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2560 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบปะประชาชน ณ มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จังหวัดสงขลา
ภายหลังเดินทางถึง นายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมตลาดประชารัฐ ก่อนจะเป็นประธานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำมาหากินในชุมชนภาคใต้และภาคใต้ชายแดน ในเขตของป่าสงวนแห่งชาติ ป่าชายเลน แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ระนอง พัทลุง ตรัง พังงา นราธิวาส และ นครศรีธรรมราช ตามลำดับ จำนวน 12 พื้นที่ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่า ด้วยการจัดพื้นที่ป่า และพื้นที่เพาะปลูกให้เหมาะสม โดยใช้แนวทางของประชารัฐมาขับเคลื่อน รวมถึงเป็นมาตรการในการแก้ไข ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชน ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการยกระดับ คุณภาพชีวิตลดความเหลื่อมล้ำ ในการประกอบอาชีพของประชาชน โดยกระบวนการทั้งหมดต้องยึดประโยชน์ ของชุมชนและประชาชนเป็นหลัก มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นธรรมกับทุกคน
จากนั้น นายกรัฐมนตรีพบปะประชาชนกว่า 800 คน ณ อาคารเอนกประสงค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย จังหวัดสงขลา โดยกล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้มาพบกับประชาชนชาวภาคใต้อีกครั้งหนึ่ง โดยครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า รัฐบาลมุ่งมั่นผลักดัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของ ประชาชน และได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ มาโดยตลอด รวมถึงการออกมาตรการและโครงการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตและช่วยลดปัญหา ภาระด้านการดำเนินชีวิตให้ดียิ่งขึ้น
โดยในการเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อมาติดตามความก้าวหน้าและเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนชาวภาคใต้ พร้อมกล่าวว่า โลกในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงอยากขอให้ประชาชนตรวจสอบข่าวสาร ก่อนการเผยแพร่ทุกครั้ง
ทั้งนี้ ภาคใต้มีศักยภาพมากมาย ทั้งมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะมีศักยภาพในภาคการเกษตร ภาคพลังงาน จึงต้องเสริมสร้างความเข้มแข็งให้มีประสิทธิภาพในทุกด้าน และเห็นว่าการเพิ่มศักยภาพฐานการผลิต เป็นเรื่องที่จำเป็นมาก โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี และลดต้นทุนการผลิตให้เกิด ความคุ้มค่ามากที่สุด นอกจากนี้ ภาคใต้ยังมีจุดแข็งที่าสามารถไปต่อยอดการพัฒนาอื่นได้เป็นอย่างดี เพื่อเป็น การสนับสนุนการลงทุนให้มีคุณภาพและเกิดประโยชน์ใน ภาพรวมของเศรษฐกิจชุมชนและประเทศ ด้านการท่องเที่ยว ภาคใต้สามารถพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยรัฐบาลมีนโยบาย ส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อสะดวกต่อการเสริมสร้างศักยภาพการท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพ
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพ ชีวิตที่ดี และประเทศมีความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน และอยากให้ทุกภาคส่วนรักษาสิ่งที่รัฐบาล ดำเนินการมาตลอด พร้อมย้ำว่าการพัฒนาต้องทำ 2 ทาง ทั้งจากภายใน โดยเริ่มที่ตัวเองก่อน และจากภายนอก จากนโยบายต่างๆของรัฐบาล ที่ช่วยในการยกระดับคุณภาพชีวิต และลดความเหลื่อมล้ำ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th