วันนี้(วันพุธที่ 20 ธันวาคม 2560) เวลา 13.30 น. นายหลี่ว เจี้ยน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ในนามของนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลไทย นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าภายใต้การทำงานของเอกอัครราชทูตซึ่งเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์การการทำงานในประเทศไทย จะส่งผลดีต่อการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย - จีน ในทุกระดับ อย่างแน่นแฟ้น และเป็นรูปธรรม เอกอัครราชทูตกล่าวชื่นชมประเทศไทยว่ามีการพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ภายหลังได้กลับมาทำงานในประเทศไทยอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนโยบายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และแผนยุทธศาสตร์ภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 ของนายกรัฐมนตรี
ในการนี้ เอกอัครราชทูตชื่นชมความสำเร็จในการร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับจีนซึ่งขยายตัวอย่างโดดเด่น ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาสำคัญเพราะความสัมพันธ์ทวิภาคีของทั้งสองประเทศดำเนินไปอย่างน่าภูมิใจ จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย ในขณะที่ไทยเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของจีนในอาเซียน แต่เชื่อว่ายังมีโอกาสพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันได้อีก ด้านการค้าไทยและจีนมีเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน ด้านการลงทุน วิสาหกิจจีนหลายรายแสดงความสนใจที่จะลงทุนในพื้นที่ EEC โดยเฉพาะวิสาหกิจที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งรัฐบาลจีนพร้อมจะสนับสนุนให้เอกชนร่วมลงทุนในไทย ตลอดจนความร่วมมือด้านนวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี โดยเฉพาะนโยบายของไทย “Thailand 4.0” และ “EEC” กับ นโยบายของจีน “Made in China 2025” และ “BRI” เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาของภูมิภาคและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ด้านความร่วมมือด้านการศึกษา ฝ่ายจีนพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับไทยในด้านการพัฒนาบุคคลกร ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเอกอัครราชทูตได้กล่าวถึงการเปิดสำนักงานความร่วมมือด้านนวัตกรรม สภาวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน (Innovation Cooperation Center (Bangkok) of the Chinese Academy of Sciences) (CAS) ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างกัน ว่าเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมของจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจน ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจกับการแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาการท่องเที่ยวให้เติบโต และมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาประเทศไทยจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง
นายกรัฐมนตรีย้ำถึงความสำเร็จในการดำเนินโครงการรถไฟไทย - จีน ยินดีที่จะมีพิธีเริ่มการก่อสร้างโครงการรถไฟไทย - จีนในวันพรุ่งนี้ (21 ธันวาคม 2560) ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งพิธีดังกล่าวจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของโครงการความร่วมมือประวัติศาสตร์ไทย - จีน และ แสดงถึงความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมของความเชื่อมโยงในภูมิภาค ซึ่งต้องขอบคุณที่รัฐบาลจีนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
นายกรัฐมนตรียินดีต่อความสำเร็จของการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 19 ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาของจีนในอีก 5 ปีข้างหน้า รวมทั้งจะส่งผลต่อพัฒนาการต่าง ๆ ในภูมิภาค ตลอดจน ชื่นชม “แนวคิด สี จิ้นผิง ว่าด้วยระบอบสังคมนิยมที่มีอัตลักษณ์แบบจีนในยุคใหม่” เป็นการแสดงถึง ความพร้อมของจีนในการปฏิรูปและพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ จะนำแนวความคิดของจีนมาศึกษา เพื่อเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาในไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางในแก้ไขปัญหาความยากจน และความเหลื่อมล้ำ เห็นว่าเป็นตัวอย่างที่ไทยสามารถเรียนรู้ และนำมาประยุกต์ใช้
นายกรัฐมนตรีฝากความระลึกถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ซึ่งได้พบและหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่อแนวทางในการกระชับความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือไทย – จีนในหลายโอกาส และขอขอบคุณฝ่ายจีนที่เชื่อมั่น เข้าใจสถานการณ์ และสนับสนุนไทยในเวทีต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จีนย้ำความสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์กับไทย เพราะไทยมีบทบาทในเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมโยงภูมิภาค
ที่มา: http://www.thaigov.go.th