วันนี้ (?25 ธันวาคม 2560) ?เวลา 10.00 น. ณ บ้านวังส้มซ่า หมู่ที่ 1 ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมการดำเนินงานของบริษัทประชารัฐรักสามัคคีพิษณุโลก (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งเป็นชุมชนต้นแบบในการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ ในรูปแบบของการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) โดยชุมชนท้องถิ่นจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทรัพยากรชีวภาพ เพื่อใช้ในการดูแลสุขภาพความงาม และการหนุนเสริมโดยบริษัทประชารัฐรักสามัคคีพิษณุโลก (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ในการสร้างมูลค่าเพิ่มในด้านการเกษตร การแปรรูป และการท่องเที่ยวชุมชน ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางนำไปสู่การสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับชุมชน และเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ชุมชนท้องถิ่น รวมถึงเพื่อเป็นตัวอย่างให้ชุมชนท้องถิ่นอื่น ๆ ต่อไป
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ปลูกต้นส้มซ่า พร้อมเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์และสินค้าจากต้นส้มซ่า รวมถึงสอบถามถึงกระบวนการผลิตและแนวทางการยกระดับจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชุมชน ที่ต้องการให้มียอดขายและรายได้เพิ่มมากขึ้น จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ทดลองใช้บริการนวดแผนโบราณ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มาจากส้มซ่า
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ชมการพัฒนาพันธุ์ไก่ชนนเรศวร หรือ ไก่เหลืองหางขาว ซึ่งเป็นไก่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดพิษณุโลก สามารถพัฒนาเพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร จากนั้นได้ชมการพัฒนาพันธุ์ปลากัดสวยงามพิษณุโลกและการพัฒนาสุนัขพันธุ์ไทยบางแก้ว ซึ่งทั้งหมดเป็นการสร้างรายได้ให้ชุมชน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบผ้าห่มให้กับผู้สูงอายุในชุมชน พร้อมกล่าวพบปะกับประชาชนที่มารอให้การต้อนรับตอนหนึ่งว่า ดีใจที่ได้มาพบกับประชาชนในพื้นที่ และถือเป็นความสุขที่จะกลับไปคิดว่า จะทำสิ่งใดให้กับประชาชน ซึ่งผลิตภัณฑ์ส้มซ่าของพื้นที่นี้ ถือเป็นภูมิปัญญาของชุมชนที่สามารถสร้างรายได้หลายล้านบาท และมองว่าผลิตภัณฑ์ส้มซ่ามีความเข้มแข็งและจะสามารถเพิ่มยอดขายจาก 5 ล้านบาท ไปได้ถึงเป้าหมาย 50 ล้านบาท ทั้งนี้มองว่าควรจะพัฒนาช่องทางการขายผ่านออนไลน์ ซึ่งจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ขายได้ดีขึ้นและกว้างขวางมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า ที่ผ่านมารัฐบาลดูแลช่วยเหลือสินค้าการเกษตรให้ดีขึ้น แต่ที่ปัญหาราคาข้าวตกต่ำนั้น เพราะมีหลายปัจจัย โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพ ดังนั้น ต่อไปขอให้มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่การเพาะปลูกให้เหมาะสม
ส่วนเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ รัฐบาลพยายามจะผลักดันโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ในเรื่องของเขื่อนนั้น คงยังไม่สามารถสร้างได้ เพราะยังติดปัญหาเรื่องของผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงคนบางกลุ่มในพื้นที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลสามารถทำได้ คือการสร้างอ่างเก็บน้ำและแก้มลิง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปีนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย 34 ล้านคน ดังนั้น ประชาชนในพื้นที่จะต้องเร่งพัฒนาเรื่องของการท่องเที่ยวและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและจะสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า รัฐบาลได้เร่งพัฒนาอาชีพ สร้างสาธารณูปโภค และระบบการศึกษาให้มีคุณภาพ รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนมีหลักคิดให้ถูกต้อง และในช่วงใกล้ปีใหม่ ในนามของคณะรัฐมนตรี ขอนำความสุข ความห่วงใยมามอบให้กับประชาชน และขออวยพรให้ประชาชนมีความสุข มีความปลอดภัย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและร่วมกันทำความดี ขอให้ทุกคนนำอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของชุมชนมาขับเคลื่อนประเทศจากภายในสู่ภายนอก เพื่อให้มีเศรษฐกิจที่ดีต่อไป
สำหรับการลงพื้นที่ในจุดนี้ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมถ่ายภาพกับประชาชนอย่างเป็นกันเองและยิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งมีประชาชนได้ บอกว่ารักนายกฯ พร้อมให้กำลังใจและขอให้นายกรัฐมนตรีสู้ๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณ และตอบกลับว่า ต้องสู้อยู่แล้ว
----------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th