วันนี้ (8 ม.ค.61) เวลา 13.30 น. นางสาวราอูชัน เยสบูลาโตวา (H.E. Ms. Raushan Yesbulatova) เอกอัครราชทูตคาซัคสถานประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีต่อเอกอัครราชทูตคาซัคสถานฯ ที่ได้รับตำแหน่ง และหวังว่าจะได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับคาซัคสถานให้มีความแน่นแฟ้นในทุกระดับ ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจกับผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีไทย-คาซัคสถาน ครั้งที่ 3 ที่กรุงอัสตานา เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเห็นว่าทั้งสองฝ่ายควรร่วมมือเพื่อติดตามผลการประชุมดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป
ออท.คาซัคสถานรู้สึกเป็นเกียรติที่นายกรัฐมนตรีให้เข้าพบ พร้อมแสดงความชื่นชมประเทศไทยเป็นประเทศที่สวยงาม ประชาชนไทยมีความเป็นมิตร และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทั้งนี้ออท.คาซัคสถานได้มีโอกาสเดินทางเมืองพัทยา และจังหวัดภูเก็ต เพื่อไปเยี่ยมชมธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ เนื่องจากประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากชาวคาซัคสถาน โดยนายกรัฐมนตรีหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวคาซัคสถานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งจะมีส่วนส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชนระหว่างสองประเทศ
สำหรับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน ออท.คาซัคสถานกล่าวว่าคาซัคสถานนำเข้าข้าวและยางพาราจากไทย โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่าทั้งสองฝ่ายควรเร่งรัดการจัดทำความตกลงทางการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-คาซัคสถาน ซึ่งจะมีส่วนสำคัญเพื่อช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ไทยมีแผนจะจัดตั้ง Rubber City ในจังหวัดสงขลา ทางภาคใต้ของไทย เพื่อเป็นฐานการผลิตผลิตภัณฑ์จากยางพารา ซึ่งมีที่ตั้งใกล้แหล่งวัตถุดิบและมีโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานรองรับ จึงขอเชิญชวนนักธุรกิจคาซัคสถานที่มีความสนใจเข้าร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับคาซัคสถานต่อความสำเร็จของงาน Astana Expo 2017 ที่ผ่านมา ซึ่งเน้นความสำคัญของพลังงานสำหรับอนาคต ทั้งนี้ ออท.คาซัคสถาน กล่าวว่าคาซัคสถานยินดีที่จะส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ด้านพลังงานซึ่งคาซัคสถานมีความเชี่ยวชาญให้แก่ประเทศไทย
ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณคาซัคสถานที่สนับสนุนท่าทีไทยในเวที OIC มาโดยตลอด และยืนยันว่าไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับคาซัคสถานและ OIC ในทุกโอกาส เพื่อขยายความร่วมมือภายใต้กรอบ OIC โดยเฉพาะในสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญและอยู่ความสนใจของ OIC อาทิ สาธารณสุข การเกษตร การศึกษา อาหาร และอุตสาหกรรม ซึ่งออท. คาซัคสถานย้ำว่าประเทศคาซัคสถานพร้อมสนับสนุนประเทศไทยในเวทีสากล
ก่อนจบการสนทนา ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าควรมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกัน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกระดับต่อไป
****************
ที่มา: http://www.thaigov.go.th