นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีงานวันครู เพื่อรำลึกถึงพระคุณครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ของชาติ

ข่าวทั่วไป Tuesday January 16, 2018 16:24 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีงานวันครู ครั้งที่ 62 พ.ศ. 2561 เพื่อรำลึกถึงพระคุณครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ของชาติ โดยย้ำครูต้องพัฒนาตนเองและการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกและการพัฒนาประเทศไปสู่เป้าหมายที่กำหนด
วันนี้ (16 ม.ค.61) เวลา 08.30 น. ณ หอประชุมคุรุสภา สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีงานวันครู ครั้งที่ 62 พ.ศ. 2561 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พร้อมทั้งเป็นการระลึกถึงพระคุณของคุณครู บูรพาจารย์ และส่งเสริมยกย่องเชิดชูเกียรติครูและการพัฒนาวิชาชีพครู และสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาติ โดยมี นายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายอุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการคุรุสภา คณะอนุกรรมการจัดงานวันครู ครั้งที่ 62 พ.ศ. 2561 ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ข้าราชการ และประชาชน เข้าร่วมพิธี

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2499 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบกำหนดให้วันที่ 16 มกราคมของทุกปีเป็นวันครู เพื่อให้เห็นความสำคัญของครูและอาชีพครู ในฐานะผู้เสียสละประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาการศึกษาของชาติและสังคม โดยคุรุสภาได้เริ่มจัดงานวันครูในปีแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2500 เพื่อระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์และได้ดำเนินการต่อเนื่องกันมาเป็นประจำทุกปีจนถึงปัจจุบัน สำหรับปี พ.ศ. 2561 สำนักงานเลขาธิการคุรุสภากำหนดจัดงานวันครู ครั้งที่ 62 พ.ศ. 2561 เป็นระยะเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 16 -17 มกราคม 2561 ในหัวข้อแก่นสาระ (Theme) คือ “เฉลิมรัชสมัย ครูไทยพัฒนา” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมยกย่องเชิดชูเกียรติครูและพัฒนาวิชาชีพครู ส่งเสริมสามัคคีธรรม ความร่วมมือ ความเข้าใจอันระหว่างครู และครูกับประชาชน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้คารวะครูอาวุโสและมอบของที่ระลึกแด่ครูอาวุโส คือ พลเอก บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตครูโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และพลโท สมพงษ์ ตุ้มสวัสดิ์ อดีตครูโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า พร้อมมอบโล่รางวัลผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาชาติ จำนวน 7 ราย รวมทั้งมอบโล่รางวัลคุรุสภา ระดับดีเด่น จำนวน 9 ราย และมอบโล่รางวัลครูผู้มีอุดมการณ์และจิตวิญญาณครู จำนวน 4 ราย

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความรู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสมาเป็นประธานเปิดงานวันครูในปีนี้ พร้อมกล่าวว่า ครอบครัวของนายกรัฐมนตรีก็เป็นครู จึงมีความเคารพเทิดทูนและระลึกถึงพระคุณของครูเสมอมา เพราะครูเป็นอาชีพที่เหนื่อยและเสียสละต่อผู้อื่น ขณะเดียวกันต้องดูแลครอบครัวของตนเอง ท่ามกลางสังคมโลกในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเป็นยุคของเทคโนโลยี ครูจึงต้องมีการปรับตัว และพัฒนาการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป อันจะส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กทั้งในเรื่องของการเรียนรู้ในห้องเรียนและสิ่งรอบตัวในสังคม เพื่อให้เด็กมีภูมิคุ้มกันที่ดีสามารถมีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและมีคุณภาพ เป็นทรัพยากรที่สำคัญในการพัฒนาประเทศไปสู่เป้าหมายที่กำหนด

พร้อมทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวยกย่องครูว่าเป็นผู้บ่มเพาะวิชาความรู้ และขัดเกลาจิตใจ ครูจึงเป็นผู้ที่มีความสำคัญในการหล่อหลอมทรัพยากรบุคคลของสังคม และเชื่อมมั่นว่า ครูทุกคนมีจิตวิญญาณแห่งความเป็นครู แม้จะพ้นจากหน้าที่ของความเป็นครูแล้ว “ครู” ก็ยังเป็น “ครู” อยู่ตลอดเวลา เพราะ “ครู” ยังคงมีความตั้งใจ มีกำลังกาย กำลังใจ และกำลังปัญญา ที่จะทำงานเพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่สังคมโดยรวมอยู่เสมอ แต่สิ่งสำคัญคือทุกคนในประเทศต้องมีศรัทธาให้กัน ในการที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของประเทศให้เกิดความสงบ เรียบร้อย อย่างยั่งยืนในอนาคต

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้ครูทุกคนบ่มเพาะนิสัยของเด็กและเยาวชนได้เกิดความเข้าใจในความเป็นไทยว่า คนไทยที่ดีควรเป็นอย่างไร ทั้งในเรื่องการพัฒนาประเทศ การเข้าใจประชาธิปไตยอย่างลึกซึ้งถูกต้องและดีงาม ดั่งคำขวัญ “วันครู” “ศิษย์ดี ก็ด้วยครูดี มีศรัทธา” เป็นการแสดงให้เห็นว่า ครูและเด็กหรือนักเรียนต่างต้องมีศรัทธาซึ่งกันและกัน เพราะจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นและไว้วางใจระหว่างกัน อันจะส่งผลให้การดำเนินการทุกอย่างบรรลุผลสำเร็จได้ ตลอดจนสามารถแก้ไขอุปสรรคและปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ในที่สุด นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคนได้ช่วยกันพัฒนาและผลิตคนให้มีความรู้ ความสามารถ บ่มเพาะศีลธรรมจรรยาเพื่อให้เด็กและผู้เรียนมีทั้งความรู้ วินัย และคุณธรรม และผลิตให้ตรงกับความต้องการของตลาดและสถานการณ์โลก รวมทั้งสอดคล้องกับการพัฒนาประเทศตามเป้าหมายที่กำหนด เพื่อให้เด็กจบการศึกษาออกมาแล้วมีงานทำและมีอาชีพที่มั่นคง สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ อันจะสามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันต้องพัฒนางานด้านการศึกษาของประเทศ ให้คนไทยมีความรู้ ทักษะ ความสารถสูง และมีจิตสาธารณะรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการก้าวเข้าสู่เป้าหมาย Thailand 4.0 ซึ่งเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคที่ 4 เน้นการขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรมและปัญญาประดิษฐ์ อย่างไรก็ตามการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ 4.0 ทุกคนต้องขับเคลื่อนไปพร้อมกันทั้งกลุ่มคน 1.0 2.0 3.0 และ 4.0 ซึ่งเป็นยุคปัจจุบันและอนาคต โดยเชื่อมั่นว่าทุกคนมีความรู้ ความสามารถ และสติปัญญาที่จะพัฒนาตนเองให้สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้ ตลอดจนเตรียมความพร้อมคนในประเทศรองรับการเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ในอนาคต (ปี 2564) และร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไปสู่เป้าหมายตามที่กำหนดไว้ ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเน้นย้ำว่าขอให้บุคลากรทางการศึกษาดำเนินการต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อเด็ก สังคม ประเทศ และให้เกิดความเท่าเทียมอย่างทั่วถึง ควบคู่กับการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง และรู้จักใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ต สำหรับประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนให้น่าสนใจ และสอนให้เด็กรู้จักคิดวิเคราะห์ด้วยเหตุและผลอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะทำให้เด็กเป็นคนที่มีความคิดที่ลึกซึ้งรอบด้านทุกมิติ และมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล รองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป

สำหรับกิจกรรมที่สำคัญในงานครู ครั้งที่ 62 พ.ศ. 2561 ประกอบด้วย พิธีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 พิธีทำบุญตักบาตร พิธีระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ พิธีคารวะครูอาวุโส พิธีมอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 นิทรรศการผลงานของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้องค์ความรู้ เพื่อการพัฒนาการศึกษาและการพัฒนาวิชาชีพในรูปแบบของการเสวนาหรือการบรรยาย นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการภาพถ่ายในหัวข้อ “เด็กรักครู ครูรักเด็ก” และการประกวดข้อเขียนความประทับใจที่ศิษย์มีต่อครู เนื่องในโอกาสวันครู ครั้งที่ 62 พ.ศ. 2561 รวมทั้ง การประกวดสปอตวิทยุ และสปอตโทรทัศน์ เป็นต้น เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปร่วมระลึกถึงพระคุณครูอีกด้วย

----------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ