วันนี้ (วันศุกร์ที่ 19 มกราคม 2561) เวลา 13.30 น. พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลป์ยะ รองนายกรัฐมนตรี อนุญาติให้นายเหวียน หาย บั่ง (H.E. Mr. Nguyen Hai Bang) เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ณ ห้องนารี 2 ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล
รองนายกรัฐมนตรีให้การต้อนรับและกล่าวแสดงความยินดีที่เอกอัครราชทูตได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย ทั้งนี้เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทยได้กล่าวขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีที่ได้สละเวลาให้เข้าเยี่ยมคารวะในครั้งนี้ ซึ่งไทยและเวียดนามมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันมาโดยตลอด โดยประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 นักลงทุนต่างประเทศที่มาลงทุนในเวียดนาม
รองนายกรัฐมนตรีชื่นชมรัฐบาลเวียดนาม ที่ดำเนินการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งไทยพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางเพื่อช่วยเหลือ รวมถึงยินดีที่จะสนับสนุนแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายอย่างยั่งยืนซึ่งเอกอัครราชทูตขอบคุณ และแจ้งว่าปัญหาการประมงเป็นปัญหาที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญ โดยรัฐบาลเวียดนามมีนโยบายในการช่วยเหลือชาวประมงที่มีรายได้ต่ำ อย่างไรก็ตามทางการไทยสามารถแจ้งประเด็นข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทำประมงผิดกฎหมาย มายังทางการเวียดนาม ทางการเวียดนามพร้อมที่จะสนับสนุนและให้ความร่วมมือที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว และขอให้รัฐบาลไทยปฏิบัติต่อชาวเวียดนามภายใต้หลักมนุษยธรรม
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงประเด็นการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ว่า เป็นปัญหาของหลายประเทศ เพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลาม และไทยยินดีที่จะให้การช่วยเหลือ ซึ่งเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทยกล่าวว่าปัญหาการค้ามนุษย์เป็นปัญหาที่เอกอัครราชทูตให้ความสำคัญ และได้เข้าพบเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในประเด็นนี้ด้วยแล้ว
เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย ได้แสดงความยินดีที่ท่านรองนายกรัฐมนตรีเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในความร่วมมือระหว่างไทยและเวียดนาม เชื่อมั่นว่าภายใต้การทำงานของรองนายกรัฐมนตรีจะสนับสนุนความร่วมมือด้านต่างๆ อาทิ การเมือง การค้า ความมั่นคง และการศึกษา ระหว่างไทยกับเวียดนาม
ในการนี้ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทยขอบคุณที่รัฐบาลไทย ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนด้านศาสนา โดยเฉพาะพระพุทธศาสนาอนัมนิกาย อันจะเป็นแหล่งรวมตัวทางศาสนาของชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม และคนไทยที่นับถือพุทธศาสนานิกายดังกล่าว เพื่อธำรงพระพุทธศาสนา อันเป็นที่ยึดเหนียวจิตใจของชาวพุทธ ซึ่งในตอนท้าย รองนายกรัฐมนตรีชื่นชมและเชื่อมั่นว่าภายใต้การดำรงตำแหน่งของเอกอัครราชทูตจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเวียดนามให้แน่นแฟ้นได้เป็นอย่างดี
ที่มา: http://www.thaigov.go.th