นายกรัฐมนตรีย้ำให้เผยแพร่ผลงานวิจัยและพัฒนาให้สังคมรับรู้อย่างกว้างขวาง พัฒนาไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและตลาดต่อไป
วันนี้ (6 ก.พ.61) เวลา 07.54 น. ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี บรรยากาศก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2561 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สักการะพระบรมราชินยานุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าร้าไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้พบปะทักทายนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ณ บริเวณโถงชั้น 1 อาคารคณะวิทยาการจัดการ โดยได้กล่าวว่า นักศึกษาทุกคนคือรากฐานที่สำคัญของประเทศในการที่จะร่วมกันพัฒนาขับเคลื่อนประเทศชาติไปสู่อนาคต โดยให้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ช่วยกันลดความขัดแย้ง อันจะทำให้สามารถเดินหน้าประเทศไปสู่เป้าหมายที่กำหนด พร้อมแนะนำให้นักศึกษาทุกคนศึกษาเรียนรู้ในสาขาที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศและตรงกับความต้องการของตลาดเพื่อจบออกมาแล้วจะได้มีอาชีพและงานทำที่มั่นคง สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ รวมทั้งเน้นย้ำกับนักศึกษาคณะครุศาสตร์ที่มาให้การต้อนรับว่า “ครู” วันนี้ต้องมีการเรียนรู้ไปพร้อมกับนักเรียนและต้องพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง มีการเรียนรู้ตลอดชีวิต ให้สอดคล้องและทันกับเทคโนโลยีและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการผลงานเด่นของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี เช่น โครงการฟื้นฟูปะการังและสร้างแหล่งเรียนรู้ โดยคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งได้ใช้หลักวิชาการมาพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรแนวปะการัง รวมทั้ง การถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ชุมชนเกิดเป็นห้องเรียนธรรมชาติของชุมชน ตระหนักถึงคุณค่าและการอนุรักษ์ปะการังและสิ่งแวดล้อมในแต่ละพื้นที่ เพื่อความร่วมมือที่จะใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
โครงการยกระดับมาตรฐานนการแปรรูปอาหารภาคตะวันออก โดยคณะเทคโนโลยีการเกษตร ได้เข้าไปดูแลกลุ่มผู้แปรรูปอาหารในภาคตะวันออกให้สามารถผลิตและแปรรูปอาหารได้ถูกต้อง ตามกฎหมายและเกิดความปลอดภัยตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบัน
โครงการเพิ่มมูลค่าพลอยตกเกรดด้วยกระบวนการทางด้านการออกแบบสำหรับเครื่องประดับ ซึ่งเป็นการนำพลอยตกเกรดมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องประดับที่ตอบสนองความต้องการของตลาด และเพิ่มมูลค่าได้ก่อให้เกิดโอกาสทางธุรกิจสำหรับ ผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย หรือวิสาหกิจชุมชนด้านอัญมณีและเครื่องประดับ และเป็นแนวทางในการเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบประเภทอื่นๆ ต่อไป
โครงการส่งเสริมการใช้ภาษาเขมร โดยสำนักศิลปวัฒนธรรมและพัฒนาชุมชน ได้จัดโครงการส่งเสริมการใช้ภาษาเขมร ซึ่งเป็นภาษาประจำชาติของประเทศกัมพูชา และเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพื้นที่ชายแดนติดต่อกับจังหวัดจันทบุรี มีการแลกเปลี่ยนทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม มีการใช้แรงงานจากชาวกัมพูชาเป็นจำนวนมากและมีความเกี่ยวข้องในด้านต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน การสื่อสารภาษาเขมรจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกหน่วยงานทุกภาคส่วนต่างให้ความสำคัญ อีกทั้งชุมชนในจังหวัดจันทบุรีหลายภาคส่วนมีความต้องการที่จะเรียนรู้ภาษาเขมรเพื่อการใช้ประโยชน์ ในการทำธุรกิจและการประกอบอาชีพอื่น ๆ เป็นต้น
ศูนย์ผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น แห่งเดียวในภาคตะวันออก โดยคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา จัดโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่นประจำปี การศึกษา 2561 ตามระบบ Thai University Central Admission System (TCAS) เพื่อเข้าร่วมเป็นสถาบันผลิตครู ของโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ของสถาบันผลิตครู ปีการศึกษา 2561 ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำว่า ผลงานวิจัยและพัฒนาต่าง ๆ ต้องผลักดันเผยแพร่ให้สังคมภายนอกได้รับรู้อย่างกว้างขวางเพื่อเป็นการพัฒนาไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและตลาดต่อไป
-------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th