วันนี้ (6 ก.พ.61) เวลา 14.30 น. ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2561 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ดูแลอำนวยความสะดวกสำหรับสถานที่จัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในครั้งนี้ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่พบปะกับประชาชนและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเมื่อวานนี้ ทำให้มีความสุขเนื่องจากได้รับทราบว่าประชาชนในพื้นที่มีความพร้อมที่จะร่วมกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศไปข้างหน้าพร้อมกับรัฐบาล ซึ่งถือเป็นกำลังใจในการทำงานของรัฐบาลและทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง สิ่งสำคัญคือภาคตะวันออกเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง ซึ่งใน 8 จังหวัดของภาคตะวันออกนั้น มี 3 จังหวัดเป็นพื้นที่ EEC ซึ่งต้องหาวิธีการและแนวทางในการที่จะเชื่อมโยงพื้นที่ EEC ดังกล่าวกับ 5 จังหวัดที่เหลือในพื้นที่ตะวันออกให้ได้ โดยการสร้างโครงข่ายคมนาคม การขนส่งหรือการเดินทางเชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบทั้งทางรถไฟ น้ำ และทางบก ซึ่งเมื่อวานได้มีการประชุมหารือร่วมกับภาคเอกชและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในพื้นที่ในการที่จะดำเนินการในเรื่องดังกล่าว โดยที่ประชุมเห็นชอบในหลักการและรัฐบาลพร้อมรับไปพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรมต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไร ที่จะให้พื้นที่ EEC เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ โดยการนำรายได้จากการเก็บภาษีมาพัฒนาประเทศรองรับการเติบโตของประเทศในอนาคต 50 ปีข้างหน้า ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ก็จะทำให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันต้องมุ่งพัฒนารายได้ของประชาชนในพื้นที่ควบคู่ไปด้วย โดยเฉพาะประชาชนผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ซึ่งถือเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด รวมถึงการดูแลอำนวยความสะดวกของผู้ประกอบการทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการมีมาตรการดูแลประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกันจะมีการดูแลผ่านการจัดสรรงบประมาณลงไปในพื้นที่ตามงานและภารกิจประจำ (function) ของแต่ละกระทรวง และงบประมาณบูรณาการที่แต่ละกระทรวงต้องทำงานร่วมกัน เชื่อมโยงงบประมาณทั้ง 6 ภาค ซึ่งครอบคลุมไปถึงกลุ่มจังหวัด ตลอดจนการดำเนินการงบประมาณรายจ่ายกลางปี ซึ่งดำเนินการการบริหารจัดการงบประมาณดังกล่าวของรัฐบาลก็เพื่อให้งบประมาณลงไปในพื้นที่โดยตรงเกิดผลสัมฤทธิ์ในภาพรวมที่เป็นการเพิ่มมูลค่าในพื้นได้อย่างแท้จริง
ขณะที่จังหวัดตราดมีศักยภาพในด้านของการท่องเที่ยวและการให้ความสำคัญกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะป่าชายเลน ชายทะเล และการท่องเที่ยว เช่น ที่เกาะช้าง ซึ่งมีหลายโครงการที่พื้นที่ได้เสนอขอรับการสนับสนุนขึ้นมา ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่ารู้สึกยินดีที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเป็นจำนวนมากและต่างรู้สึกประทับใจมีความสุขที่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนสมควรภาคภูมิใจ เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย สิ่งสำคัญที่สุดคือประชาชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ต้องช่วยกันดูแลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศ รวมทั้งดูแลรักษาความสะอาดทุกพื้นที่ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม โดยเฉพาะห้องสุขาต่าง ๆ ต้องดูแลให้สะอาดอยู่เสมอซึ่งจะเป็นการดูแลในเรื่องสาธารณสุข
พร้อมเสนอแนะเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวป่าชายเลน ว่า ควรพิจารณาให้มีการจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ระหว่างการนั่งเรือเที่ยวชมป่าชายเลนพร้อมกันด้วย เพื่อให้การท่องเที่ยวน่าสนใจกระตุ้นและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวมากขึ้น รวมทั้งเชื่อมโยงกิจกรรมผ่านวิถีชุมชนและการดำเนินชีวิตของคนในพื้นที่ โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ชุมชนในพื้นที่จะได้รับเป็นสำคัญ
รวมทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการได้ไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตชุมชนริมน้ำจันทบูรและวิสาหกิจเพื่อสังคมตลาดเก่าริมน้ำจันทบูร ว่า การไปเยี่ยมเยียนชุมชนริมน้ำจันทบูรได้พบปะกับประชาชนซึ่งอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยเป็นการอยู่ร่วมกันแบบพหุวัฒนธรรมอย่างมีความสุข ระหว่างประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม ซึ่งตรงนี้เรียกว่าเป็นการปรองดองโดยประชาชนเอง และเมื่อมีข้อขัดแย้งภายในชุมชนก็สามารถพูดคุยตกลงกันได้ ทำให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการอยู่ร่วมกันของคนในประเทศไทยและอยากให้มีการขยายการอยู่ร่วมกันในลักษณะนี้ไปสู่ชุมชนอื่น ๆ ด้วย
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาต้องมองให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การนำพาสังคมขับเคลื่อนควบคู่วัฒนธรรม จารีต ประเพณีอันดีงาม และศักยภาพของพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกมีความโดดเด่นในเรื่องของผลไม้ ซึ่งเรื่องนี้ต้องพิจารณาดำเนินการอย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นทาง คือผู้ผลิต ไปจนถึงกลางทางคือการรับซื้อ และปลายทางคือผู้บริโภค โดยเฉพาะในเรื่องของการรับซื้อต้องดูทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงต้องมีการกำหนดมาตรฐานสินค้าเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพสามารถแข่งขันในตลาดได้ โดยสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้าให้น่าสนใจ และมีการบรรจุหีบห่อที่สวยงาม อันจะทำให้สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ได้ พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนคนไทยในการดูแลให้บริการนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะการคิดค่าบริการหรือสินค้าขอให้คิดในราคาที่เป็นธรรมเหมาะสมไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว เพื่อนักท่องเที่ยวจะได้เกิดความประทับใจแล้วกลับมาท่องเที่ยวประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลดีในเรื่องของการสร้างงานและรายได้ในชุมชนและเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม
พร้อมทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำว่าประเทศไทยต้องเป็นผู้นำเรื่องการท่องเที่ยวและผลไม้ซึ่งภาคตะวันออกถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว และเสริมด้วย EEC ในเรื่องของการผลิตสิ่งของที่มีมูลค่าสูง รวมทั้งให้มีการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้ถึงกันอย่างเป็นระบบครบวงจร เช่น การเชื่อมโยงการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมกับการกีฬา การเชื่อมโยงเรื่องของการประกอบการร้านค้าสมัยเก่ากับสมัยใหม่เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างจุดดึงดูดและความน่าสนใจ และตื่นเต้น สำหรับนักท่องเที่ยว
ขณะเดียวกันในส่วนของแรงงานในประเทศก็ต้องมีการพัฒนาให้เป็นแรงงานที่มีฝีมือและความรู้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศควบคู่กับการใช้แรงงานต่างด้าวโดยต้องมีการดูแลควบคุมให้ดีและเป็นไปอย่างเหมาะสม
ส่วนแผนเดิมที่กำหนดไว้แต่ยังไม่ได้ดำเนินการและมีการเสนอขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องมีการปรับแผนให้สอดคล้องกับความต้องการและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้ง การทำงานต้องมีการกำหนดกรอบการทำงานให้ชัดเจนทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน การบริหารจัดการน้ำ ขณะที่การลงทุนต้องดำเนินการควบคู่กับการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เป็นไปอย่างคุ้มค่าเกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม อันจะทำให้การพัฒนาขับเคลื่อนประเทศไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้
---------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th