วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2561) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (เดิม) อาคารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2561 ซึ่งผลการประชุมสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการนำวัคซีนใหม่มาใช้ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเยื้อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อฮิบ (Hib) เป็นวัคซีนในรูปแบบวัคซีนรวม 1 เข็ม ป้องกันได้ 5 โรค ได้แก่ โรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ตับอักเสบบี และเยื้อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อฮิบ (DTwP-HB-Hib) ซึ่งเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรคในปัจจุบัน ซึ่งมีการนำมาบรรจุในโครงการเสริมภูมิคุ้มกันโรคทั่วโลก โดยฉีดให้ 3 ครั้ง ในเด็กระดับอายุ 2 เดือน 4 เดือน และ 6 เดือน ตามลำดับ ซึ่งมักพบการป่วยในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ปีละไม่เกิน 200 ราย แม้ได้รับการรักษาทันที แต่เด็กที่รอดชีวิตจะมีมีความผิดปกติทางประสาทและสมองในอัตราสูงมีการเร่งผลักดันการบรรจุวัคซีนใหม่มาใช้ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคและกลยุทธ์ยกระดับการบริหารจัดการ เพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคงด้านวัคซีนและประชาชนสามารถเข้าถึงวัคซีนดังกล่าวได้อย่างเท่าเทียมกัน
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบผลการติดตามการดำเนินงานโครงการในวาระแห่งชาติด้านวัคซีน (พ.ศ. 2554 - 2563) ให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติสนับสนุนวิจัยพัฒนาเพื่อการผลิตวัคซีน ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยการจัดทำแผนของงบประมาณบูรณาการด้านวิจัยและพัฒนากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย การวิจัยในห้องปฏิบัติการ การผลิตสัตว์ทดลอง และการทดสอบวัคซีนในสัตว์ทดลองมาตรฐานสากล รวมทั้งการสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศและมีการติดตามผลการประเมินการเตรียมความพร้อมด้านวัคซีนเพื่อรองรับการระบาดใหญ่ไข้หวัดใหญ่ พร้อมกับสร้างความเข้มแข็ง ด้านการประกันและควบคุมคุณภาพวัคซีนของประเทศให้มีประสิทธิภาพและไม่เกิดความซ้ำซ้อนกัน
ตอนท้ายของการประชุม ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจในโครงการความร่วมมือในการสนับสนุนการใช้ระบบจัดเตรียมเอกสารทะเบียนตำรับยาแผนปัจจุบันแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NVIFDA) จำนวน 2 ฉบับ ฉบับแรก ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และฉบับที่ 2 ระหว่างสมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาและแผนปัจจุบันกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจและความเชื่อมั่นต่อผู้ประกอบการฯ ในการเข้าถึงซอฟแวร์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลและราคาที่เป็นธรรมผ่านการใช้งานระบบดังกล่าวต่อไป
..................................................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th