วันนี้ (16 กุมภาพันธ์ 2561) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 2503 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาล นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) พร้อมคณะได้เข้าพบ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อปรึกษาหารือ พร้อมขอรับการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งเกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมให้มีความยั่งยืนต่อไป
โอกาสนี้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ ศอ.บต ได้รับมอบหมายจาก ผอ.ศอ.บต. ให้รายงานแก่รองนายกรัฐมนตรี ถึงข้อเสนอแนะในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะประเด็นสำคัญเกี่ยวกับด้านสินเชื่อ และด้านกระบวนการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ตลอดจนมีการสนับสนุนด้านอื่นๆ เพื่อให้ประชาชนในชุมชนมีรายได้เสริมมากขึ้น ทั้งในด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและด้านพลังงาน เป็นต้น
นอกจานี้ การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปด้วยความสะดวกเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อการลงทุนและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อการสร้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่การปรึกษาหารือจึงได้มีการพิจารณาการดำเนินการตามกฎหมายพิเศษ เช่น พรบ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 มาตรา 10 และมาตรา 18 เมื่อให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไปโดยเร็ว
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า รัฐบาลมีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดความมั่นคงและคล่องตัวมากขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้มอบหมายให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนกระบวนการหรือขั้นตอนในการจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรวดเร็วมากขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกในการประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมได้รวดเร็ว ส่งผลต่อการขยายผลเศรษฐกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีศักยภาพ มีการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างทั่วถึง และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ขณะเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ธนาคารภาครัฐให้การสนับสนุนสินเชื่อ เพื่อความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการอีกด้วย ตลอดจนให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต) ร่วมมือกับจังหวัดและหอการค้าจังหวัดในพื้นที่ดังกล่าวให้การสนันสนุนอุตสาหกรรมในครัวเรือน เช่น ตัดเย็บเสื้อผ้า เป็นต้น เพื่อให้ชุมชนมีรายได้มากขึ้นและมีความสุขที่ได้ทำงานในท้องถิ่นและอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว ทำให้เพิ่มความอบอุ่นและความสุขของชุมชนที่ได้อยู่กันพร้อมหน้า ไม่ต้องไปทำงานในท้องถิ่นที่ไม่ใช่ภูมิลำเนาของตัวเอง เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นและแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ดีอีกด้วย
..........................................................................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th