วันนี้(23 กุมภาพันธ์ 2561) เวลา 09.30 น. นาย Robert C. Fox ประธานคณะทำงานด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (Joint Foreign Chambers Of Commerce in Thailand: JFCCT) และคณะทำงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของสมาคมการค้ายูโรเปียนเพื่อธุรกิจและการพาณิชย์ (EABC) เข้าเยี่ยมคารวะพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญดังนี้
ทั้งสองฝ่ายหารือความสำคัญของการขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจและพัฒนาสังคมให้มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นโยบาย Thailand 4.0 มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ครอบคลุมหลากหลายมิตินอกเหนือไปจากการอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุน แต่เทคโนโลยีดิจิทัลยังส่งผลให้เกิดการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน การพัฒนาการศึกษา การพัฒนาระบบคมนาคม และการจัดเก็บข้อมูลแรงงานที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น ซึ่งประธานคณะทำงานด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทยกล่าวแสดงความยินดีที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเทศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล JFCCT และ EABC ยินดีอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนให้นโยบายดังกล่าวของรัฐบาลประสบความสำเร็จ
รองนายกรัฐมนตรีและนาย Robert C. Fox ยังหารือถึงความท้าทายและอุปสรรคของประเทศไทยในการผลักดันนโยบาย Thailand 4.0 ให้ประสบความสำเร็จ นาย Robert C. Fox กล่าวว่า การขับเคลื่อนนโยบายนี้ให้มีประสิทธิภาพได้นั้นต้องมีระบบโทรคมนาคมที่มีประสิทธิภาพ มีความสามารถทางการแข่งขัน นวัตกรรม รวมทั้งความรับผิดชอบและกฎระเบียบที่ควบคุมชัดเจน ซึ่งต้องอาศัยบทบาทที่สำคัญจากภาครัฐในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการบริการ นอกจากนี้ การที่ประเทศไทยตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางของภูมิภาค ทำให้ไทยได้เปรียบในเรื่องการคมนาคมและการขนส่งสินค้า แต่อย่างไรก็ตาม หากจะทำให้ไทยได้เปรียบในเรื่องการเป็นศูนย์กลางในการให้บริการทางด้านข้อมูล(Data Service Hub) ด้วยนั้น ระบบโทรคมนาคมของไทยจะต้องทำให้เกิดความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการ มีความโปร่งใส่และโครงสร้างที่ชัดเจน มีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ครอบคลุมและประชาชนทุกระดับสามารถใช้ได้อย่างเท่าเทียม มีระบบอินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยและมั่นคง รวมทั้งต้องมีการวางกฎระเบียบในเรื่องการควบคุมการจัดการข้อมูล การนำข้อมูลไปใช้ สิทธิส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล และการเคลื่อนย้ายข้อมูลข้ามพรมแดนด้วย ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวมีประโยชน์อย่างยิ่งและยินดีนำข้อมูลที่ได้ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงระบบโทรคมนาคมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ที่มา: http://www.thaigov.go.th