นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนธนาคารปูม้าแหลมผักเบี้ย

ข่าวทั่วไป Monday March 5, 2018 15:37 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีย้ำรัฐบาลพร้อมส่งเสริมสนับสนุนชาวประมงให้มีอาชีพเสริมเพิ่มรายได้มากขึ้น

วันนี้ (5 มี.ค. 61) เวลา 14.45 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนธนาคารปูม้า –แพปลาชุมชนแหลมผักเบี้ย ต. แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี พร้อมเป็นสักขีพยานให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการมอบหนังสืออนุญาตให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์ฯ หรืออยู่อาศัยในพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินในชุมชนภาคกลาง (พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่ายางหัก-เขาปุ้ม จังหวัดเพชรบุรี) ให้แก่ผู้ว่าราชจังหวัด โดยมี นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นางโฉมยง โต๊ะทอง รองประธานบริษัท ประชารัฐสามัคคีเพชรบุรี จำกัด นางอัจฉรีย์ เสริมทรัพย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต. แหลมผักเบี้ย หัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และประชาชนในพื้นที่ มารอให้การต้อนรับ

ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต. แหลมผักเบี้ย ได้นำนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมฐานเรียนรู้และธนาคารปูม้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการประชารัฐ ที่เป็นความสำเร็จในการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยยึดแนวตามทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้ประยุกต์องค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นและการวิจัยที่ทำให้สามารถแก้ปัญหาปริมาณปูม้าลดลงในท้องทะเล โดยการนำปูม้าไข่ที่จับได้มาฟักในระยะสั้นแล้วปล่อยลูกปูม้าลงสู่ทะเล เป็นการเพิ่มปริมาณปูม้า และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางชายฝั่งทะเล ซึ่งเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านของกลุ่มชาวประมงที่ใช้วิธีการง่าย ๆ ด้วย วิธีธรรมชาติ ต่อมาคณะวิจัยพัฒนาการฟักตัวไข่ปูม้าเพื่อให้มีอัตราการรอดของปูเพิ่มขึ้นก่อนปล่อยลงสู่ทะเล โดยจังหวัดที่ดำเนินการ ได้แก่ จังหวัดสงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ซึ่งแต่ละชุมชนสามารถเพิ่มปริมาณปูม้าให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามความต้องการ และชาวบ้านนำไปขายโดยผ่านวิสาหกิจชุมชน และผ่านตลาดประชารัฐสามัคคีจังหวัดเพชรบุรี จำกัด จึงทำให้ชาวบ้านมีอาชีพและรายได้เพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญสามารถฟื้นฟูและเพิ่มพูนทรัพยากรสัตว์น้ำในทะเล ตลอดจนสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ให้มีความรัก หวงแหน และเพิ่มพูนทรัพยากรสัตว์น้ำคืนสู่ทะเลอีกด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานสักขีพยานในการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ฯ เนื้อที่ 23,132 ไร่ จำนวน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านลาด ท่ายาง แก่งกระจาน แก่ผู้ว่าราชจังหวัด พร้อมแสดงความยินดีที่ได้มาพบปะกับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเพชรบุรีในวันนี้ เพื่อจะได้รับฟังปัญหาความเดือดร้อน และความต้องการของประชาชนในพื้นที่โดยตรง จะได้นำไปปรับแก้ไขให้ตรงจุดและเป็นรูปธรรมในทุก ๆ ด้าน

พร้อมกล่าวว่า การบริหารประเทศนั้น รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการวางรากฐานความมั่นคงและความเข้มแข็ง ด้วยการเร่งแก้ปัญหาในเรื่องต่างๆ ที่มีปัญหาสะสมมานาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การศึกษา การบริหารราชการ การคอร์รัปชัน ควบคูกับการสร้างประสิทธิภาพของการบริหารจัดการภาครัฐ และการดำเนินการที่เกี่ยวข้องอย่างมีทิศทางและมีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงจังหวัดเพชรบุรีว่า เป็นเมืองที่มีของดีมากมาย และมีศักยภาพในหลาย ๆ ด้าน ทั้งสภาพภูมิประเทศ ทรัพยากร และความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งมีต้นทุนทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เชิงสุขภาพ เชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อีกทั้งมีแหล่งผลิตสินค้าเกษตรมากมาย ซึ่งจะทำอย่างไรเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยง และขยายผลผลิตให้มีรายได้ที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติใหเดินทางเข้ามาสัมผัสบรรยากาศและวิถีชีวิตของเมืองนี้ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่การท่องเที่ยวของจังหวัดและส่งเสริมให้เศรษฐกิจของจังหวัดเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรีขอให้จังหวัดได้มีการอนุรักษ์ สืบสาน ต่อยอดและส่งเสริมให้มีการเรียนรู้งานศิลปะและวัฒนธรรมของไทยทุกแขนง เพื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าของชาติ และสืบสานให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ต่อไป

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาล โดยคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ได้จัดที่ดินทำกินให้กับประชาชนครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาการใช้ที่ดินทำกินของเกษตรกรและผู้ยากจนอย่างทั่วถึง เป็นธรรม และป้องกันการเสียสิทธิในที่ดินทำกินของเกษตรกรและผู้ยากจน และบริหารจัดการ ด้วยการจัดสรรที่ดินให้ผู้ยากไร้ที่ไม่มีที่ดินทำกิน ในลักษณะแปลงรวมหรือชุมชนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ คทช. กำหนด ในรูปแบบสหกรณ์หรือรูปแบบอื่นที่เหมาะสม

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการสร้างรายได้ให้ชาวประมงว่า รัฐบาลพร้อมให้การส่งเสริมอาชีพชั่วคราว โดยมอบหมายให้กรมการจัดหางานเตรียมความพร้อมในการส่งเสริมอาชีพให้กับชาวประมงในพื้นที่ 22 จังหวัดติดชายฝั่งทะเล เพื่อเพิ่มอาชีพและสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง โดยการรับงานไปทำที่บ้าน ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จะดูแลในเรื่องการตลาด โดยจัดจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์และบริการในระดับจังหวัดที่มีร้านค้าประชารัฐในบริเวณปั้มน้ำมัน พร้อมรับซื้อและนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายและตามร้านค้าโอทอป สามารถสร้างความพอใจและสร้างความมั่นใจให้แก่สมาชิกในการดำเนินการร่วมกับกลุ่มต่อไป ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงเข้มแข็ง ยั่งยืนในอาชีพ ทำให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอีกด้วย

---------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ