วันนี้ (7 มีนาคม 2561) เวลา 08.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ 2/2561 ซึ่งสรุปสาระสำคัญดังนี้
ที่ประชุมได้พิจารณาและมีติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. .... เสนอโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีความสำคัญและมีความจำเป็นเร่งด่วน เนื่องด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้กำหนดให้รัฐต้องอนุรักษ์ คุ้มครองบำรุงรักษา ฟื้นฟู บริหารจัดการและใช้หรือจัดให้มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ชุมชน สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพให้เกิดประโยชน์อย่างสมดุลและยั่งยืน โดยให้ประชาชนและชุมชนในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมดำเนินการและได้รับประโยชน์พร้อมกำหนดให้บุคคลและชุมชนย่อมมีสิทธิจัดการบำรุงรักษาและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพได้อย่างสมดุลและยั่งยืนตามวิธีการที่กฎหมายบัญญัติไว้
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของราชการ พ.ศ. 2558 เสนอโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ซึ่งพระราชบัญัติดังกล่าวประชาชนได้รับประโยชน์ ทั้งด้านความโปร่งใส ชัดเจน โดยรับรู้ขั้นตอน วิธีการ ระยะเวลา เอกสารประกอบ แบบฟอร์ม ค่าธรรมเนียมจากคู่มือสำหรับประชาชน ตลอดจนมีความรวดเร็วและฉับไว ด้วยการรับการตรวจเอกสารหากไม่ครบถ้วนต้องแจ้งให้ประชาชนผู้ยื่นเรื่องทราบและขอเพิ่มทันที รวมทั้งมีความถูกต้องและตรงต่อเวลา โดยรับบริการตามเวลาที่สัญญา หากดำเนินการไม่แล้วเสร็จต้องรีบแจ้งเหตุผลที่ล่าช้าให้ประชาชนผู้ยื่นเรื่องทราบทุก ๆ 7 วันทันที
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบแนวทางการบูรณาการระบบสวัสดิการภาครัฐ เพื่อการแก้ไขปัญหาความยากจน โดยเน้นเชื่อมโยงข้อมูลด้วยเลข 13 หลัก ของบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมทั้ง มีการขับเคลื่อนด้วยโครงการพัฒนาฐานข้อมูลส่วนกลาง เพื่อการบูรณาการข้อมูลระบบสวัสดิการภาครัฐ โดยโครงการนี้คาดว่าจะเรียบร้อยในเร็ว ๆ นี้ เพื่ออำนวยประโยชน์แก่ประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบโครงการเพิ่มศักยภาพกำลังคนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมสนับสนุนการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรมในประเทศและภูมิภาค เสนอโดยกระทรวงศึกษาธิการ โดยจัดทำโครงการเพื่อพัฒนาอาชีวศึกษา พร้อมพัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษาตามแนวทางการผลิต และพัฒนากำลังคนสู่ภาคอุตสาหกรรมโดยเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษาและสถาบัน KOSEN ประเทศญี่ปุ่นใช้ระยะเวลาดำเนินโครงการ 7 ปี ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อส่งเสริมการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถอุตสาหกรรมเพื่อการแข่งขัน ด้านกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านอุตสาหกรรม โดยโครงการนี้จะส่งผลให้ผู้สำเร็จการศึกษาระดับอาชีวศึกษามีทักษะฝีมือความเชี่ยวชาญ เพราะมีความเป็นเลิศเฉพาะทางเพื่อการพัฒนาประเทศ ตลอดจนมีโอกาสพัฒนางานวิจัยสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมเทคโนโลยี และองค์ความรู้ในการพัฒนางานและการประกอบอาชีพ รวมทั้ง ได้รับค่าตอบแทนที่สอดคล้องกับสมรรถนะทางอาชีพอีกด้วย ทั้งนี้ โครงการนี้จะเริ่มดำเนินการในเร็ว ๆ นี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการกำกับกิจการสหกรณ์การเงินขนาดใหญ่ พ.ศ. .... เสนอโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงการคลัง โดยมีความคืบหน้า ซึ่งมีสาระสำคัญในการกำหนดให้มีคณะกรรมการกำกับกิจการสหกรณ์การเงินขนาดใหญ่มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดหลัเกณฑ์และมาตรฐานในการกำกับ ดูแล การประกอบกิจการของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์ยูเนี่ยน ขนาดใหญ่ และกำหนดให้มีสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการสหกรณ์การเงินขนาดใหญ่ ซึ่งในเบื้องต้นจะกำกับดูแลสหกรณ์ที่มีสินทรัพย์เกิน 5,000 ล้านบาทขึ้นไป ปัจจุบันมีจำนวน 134 แห่ง และกำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนคุ้มครองเงินฝากสหกรณ์ภายใต้พระราชบัญญัติฉบับนี้ด้วย เพื่อเป็นการเสริมสร้างเสถียรภาพของระบบสหกรณ์และระบบการเงินของประเทศให้มั่นคงมากขึ้น ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้นำตัวแทนเครือข่ายป่าชุมชน ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศกว่า 10,000 แห่ง มากล่าวถึงผลดีของร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชนที่เอื้อประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วประเทศว่า ขอขอบคุณ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ออกกฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้ประชาชนอยู่กับป่าได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ด้วยลักษณะทั้งคนและป่าเกื้อกูลกัน ทำให้การรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีความยั่งยืน และในอนาคตอันใกล้ จะทำให้ป่าไม้ในประเทศไทยที่ตั้งเป้าหมายไว้ร้อยละ 40 ของพื้นที่ทั้งหมดของประเทศไทยเกิดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกันรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และจะเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอนเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป
..........................................................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th