วันนี้ (15 มีนาคม 2561) เวลา 11.00 น ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานกรรมการปฎิรูปประเทศด้านการเมือง ได้แถลงการจัดทำแผนการปฎิรูปประเทศด้านการเมือง สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
คณะกรรมการฯ ได้มีแนวคิดในการปฎิรูปประเทศด้านการเมืองที่เกิดจากประสบการณ์ของประเทศไทย ซึ่งสภาวการณ์ทางการเมืองตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาประเทศไทยยังไม่สามารถพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้มั่นคง มีความชอบธรรม มีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลให้กับคนในประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม
ดังนั้น เป้าหมายประการสำคัญของการปฎิรูปประเทศด้านการเมืองของประเทศไทยในขณะนี้ ได้แก่ การธำรงไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่มีความมั่นคง มีความชอบธรรม มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ก่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติ บ้านเมืองและประชาชน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ดังกล่าว ในการปฎิรูปการเมืองของไทยในขณะนี้จึงไม่ควรยึดติดหรือเคร่งครัดกับทฤษฎี แนวคิด รูปแบบ และกติกาประชาธิปไตยของประเทศตะวันตกมากจนเกินไป แต่ควรมีความยืดหยุ่น โดยผสมผสานกับวิถีแบบตะวันออก และประสบการณ์ของประเทศไทยที่ผ่านมาร่วมด้วย
นอกจากนี้ แนวคิด วัฒนธรรม และอุปนิสัยของคนไทยก็ยังเป็นพื้นฐานดั้งเดิมที่สามารถนำมาปรับใช้เพื่อเป็นประโยชนืในการปฏิรูปด้านการเมือง และเสริมสร้างความเป็นประชาธิปไตยได้เช่นกัน อาทิ วัฒนธรรมของคนไทยที่มีความยืดหยุ่น ประนีประนอม การมีระบบอาวุโส รู้แพ้รู้ชนะ รู้อภัย ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดียิ่งสำหรับประชาธิปไตย โดยการดำเนินการทางการเมืองไม่เป็นคู่ขัดแย้ง ไม่เป็นปรปักษ์ ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย อันเป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี และช่วยเสริมสร้างการรู้รักสามัคคีของสังคมไทย
ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง กล่าวย้ำว่า คณะกรรมการฯ จึงได้กำหนดเรื่องและประเด็นในการปฎิรูปไว้ 5 ประเด็นสำคัญ เพื่อให้การปฎิรูปบังเกิดผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฯ ประกอบด้วย 1. การเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2. กลไกการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธีและการรู้รักสามัคคีของสังคมไทย 3. การกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการจัดสรรทรัพยากรที่เป็นธรรม 4. การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรมเพื่อการปฎิรูปประเทศ และ 5.การสร้างรัฐธรรมาธิปไตย
ทั้งนี้ หากการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองดังกล่าวประสบความสำเร็จตามผลสฤทธิ์ที่ตั้งไว้แล้ว ก็จะทำให้เกิดการพัฒนาประเทศในมิติอื่น ๆ ตามไปด้วย อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างให้การปฎิรูปประเทศในด้านอื่น ๆ สำเร็จลุล่วงด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ประเทศชาติและสังคมจะมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน ประชาชนในชาติจะมีการพัฒนาทางด้านวัตถุและจิตใจที่สมดุลกัน มีความสุข มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เกิดความเป็นธรรมและความเท่าเทียมกันในสังคมอย่างแท้จริง
........................................................................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th