วันนี้ (15 มี.ค. 61) เวลา 13.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนให้การต้อนรับคณะยุวชนประชาธิปไตยและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 160 คน ที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมและสนับสนุนความเป็นพลเมืองของเยาวชนในระบอบประชาธิปไตย เพื่อพัฒนาประเทศไทยให้ยั่งยืน กิจกรรมยุวชนประชาธิปไตย ประจำปี 2561 โดยมี นายประกิจ ธนาเลิศสมบูรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานด้วย
ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้กล่าวรายงานว่า โครงการส่งเสริมและสนับสนุนความเป็นพลเมืองของเยาวชนในระบอบประชาธิปไตยเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้ยั่งยืน เป็นการดำเนินงานของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อเยาวชนทั่วทุกภูมิภาคอย่างเท่าเทียม การจัดกิจกรรมยุวชนประชาธิปไตย เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่หลากหลายของโครงการฯ ซึ่งให้ความสำคัญในเรื่องขององค์ความรู้ด้านการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะมีโอกาสได้ศึกษาดูงานในสถานที่สำคัญ ๆ ซึ่งเป็นกลไกในการขับเคลื่อนกระบวนการทางการเมืองการปกครองไทย เช่น ศาล และองค์กรอิสระ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การสหประชาชาติ และสถานที่ที่น้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้าง เป็นต้น เมื่อได้ศึกษาทั้งด้านองค์ความรู้ และประสบการณ์แล้ว เยาวชนจะสามารถนำมาบูรณาการ เพื่อแก้ปัญหาในกรณีศึกษาที่กำหนด ซึ่งมีรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งในเรื่องบทบาทสมมติ สถานการณ์จำลอง เวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การระดมสมองในกลุ่มย่อย ฯลฯ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่แสดงให้เห็นถึงการใช้องค์ความรู้ และทักษะในเชิงบูรณาการได้อย่างชัดเจน ผลงานที่เยาวชนได้สร้างขึ้นขณะเข้าร่วมกิจกรรม แสดงถึงศักยภาพของการเข้ามามีส่วนร่วมของเยาวชน ในกิจกรรมของสถาบันนิติบัญญัติ ซึ่งสามารถนำไปขยายผลในรูปแบบอื่น ทั้งการเผยแพร่ความรู้ การนำทักษะ และประสบการณ์ไปสานต่อให้เกิดประโยชน์ต่อเยาวชน และเป็นการสร้างเครือข่ายเยาวชนของสถาบันนิติบัญญัติเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมต่อไป
โอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อ “การปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และโครงการประชารัฐ” แก่เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ว่า อยากให้เยาวชนทุกคนเป็นโครงข่ายและเป็นกำลังสำคัญของรัฐสภาต่อไป ซึ่งสมัยก่อนตนได้เคยทำงานที่รัฐสภาเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศและการร่างรัฐธรรมนูญของอาจารย์บวรศักดิ์ อุวรรณโณ สิ่งหนึ่งที่อยากจะเล่าให้ฟัง คือ รัฐบาลมีความตั้งใจโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยสู่ประชาธิปไตยที่มีธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง นำประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งคนไทยทุกคนต้องสร้างอนาคตไว้ในใจต่อการเปลี่ยนแปลงประเทศ เพื่อให้ทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดังนั้น รัฐบาลได้จัดทำร่างยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยรัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างแผนปฏิรูปประเทศเสร็จแล้วทั้ง 11 ด้าน เพื่อการสร้างความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน การสร้างโอกาส ความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ อีกทั้ง เพื่อให้สังคมไทยมีความปรองดองและสามัคคี ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่9) ที่ทรงมีพระราชดำรัสแก่ชาวไทยว่า การดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ นอกจากนี้ รัฐบาลพร้อมที่จะเดินหน้าปฏิรูปประเทศจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาทำงานคู่ขนานกันไปอีกด้วย
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง โครงการประชารัฐที่รัฐบาลได้ขับเคลื่อนพัฒนาประเทศโดยเน้นการสร้างความมีส่วนร่วมระหว่าง ภาครัฐ เอกชน ประชาชน ให้เข้ามาช่วยเดินหน้าพัฒนาปฏิรูปประเทศ รวมถึงแก้ไขปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม การยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ตลอดจนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ นอกจากนี้ ยังได้มีการก่อตั้งบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี จำกัด โดยเป็นรูปแบบวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ไม่แสวงหาผลกำไร มีหน้าที่ช่วยเหลือต่อยอดชุมชนที่มีความพร้อม ให้สามารถเพิ่มรายได้จากธุรกิจการเกษตร การแปรรูป และการท่องเที่ยวโดยชุมชน เป็นการเสริมความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มีความมั่นคงซึ่งปัจจุบันสามารถจัดตั้งบริษัทประชารัฐรักสามัคคีได้ครบทั่วประเทศ 76 จังหวัด และวิสาหกิจชุมชนเข้าร่วมรับการช่วยเหลือจำนวนมาก สามารถช่วยเหลือต่อยอดทางรายได้ และพัฒนาการบริหารจัดการให้โครงการท้องถิ่นชุมชนประสบความสำเร็จ พร้อมกันนี้ ขอให้เยาวชนทุกคนออมเงิน เพื่อการวางแผนทางการเงิน ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงในการลงทุนการสร้างอาชีพรายได้ ซึ่งทุกอาชีพสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเอง โดยการการปลูกฝังนิสัยการออมและการใช้เงินอย่างรู้คุณค่าตั้งแต่วัยเด็ก จะช่วยให้เยาวชนสามารถกำหนดพฤติกรรมทางการเงินของตนเองได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะถูกพัฒนาไปสู่การบริหารการเงินอย่างมีวินัยในระยะยาว
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษและเมือง พัฒนาเขตเศรษฐกิจ พิเศษชายแดน และพัฒนาระบบเมืองศูนย์กลางความเจริญ การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการขนส่ง เพื่อการเชื่อมโยงกับภูมิภาคและเศรษฐกิจโลก เพื่ออนาคตประเทศไทยในระยะยาว จึงได้มีการลงทุนพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงหลายเส้นทาง รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงที่จะมีขึ้นภายในปีที่ผ่านมาได้มีแผนดำเนินการใน 2 โครงการคือสาย อ.เด่นชัย จ.แพร่-เชียงราย-เชียงของ และสาย อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น-สกลนคร-มุกดาหาร-นครพนม เพื่อให้สอดรับกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและบริการเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ที่ครอบคลุม จะเห็นได้ว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาในขณะนั้นประเทศไทยมีปัญหาที่สะสมมาอย่างยาวนาน ซึ่งจะทำอย่างไรที่จะทำให้ประเทศไทยได้มีการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทุกภาคส่วนต้องมีการปรับและพัฒนาตนเองให้ทัดเทียมกับนานาประเทศอีกด้วย
…………………………….
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th