นรม.เปิดป้ายศูนย์การเรียนรู้หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงโพธิ์ศรีสำราญ จ.หนองบัวลำภู พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ พลังงานทดแทน ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเกษตรกร-แปลงปลูกผักอินทรีย์ ชื่นชมชุมชนหัวนาที่รวมกลุ่มกันทำให้พื้นที่สาธารณะเป็นแปลงเกษตรชุมชน
วันนี้ (22 มีนาคม 2561) เวลา 11.30 น. ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกผักอินทรีย์โพธิ์ศรีสำราญ ตำบลหัวนา อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำพิธีเปิดป้ายศูนย์การเรียนรู้หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ พลังงานทดแทน ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเกษตรกร และแปลงปลูกผักอินทรีย์
สำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผักอินทรีย์โพธิ์ศรีสำราญ เกิดจากการรวมกลุ่มของสมาชิกในหมู่บ้านใช้พื้นที่สาธารณะกุดตาแมว ซึ่งเป็นพื้นที่บริเวณรอบ ๆ ขอบสระน้ำปลูกผักอินทรีย์เพื่อทำอาชีพเสริมให้กับคนในชุมชน โดยจัดสรรพื้นที่ปลูกคนละ 5 เมตร มีจำนวนสมาชิก 46 คน โดยเทศบาลตำบลหัวนาจัดทำท่อส่งน้ำ และติดตั้งก๊อกน้ำให้สมาชิก เบื้องต้นผลผลิตใช้บริโภคในครัวเรือนลดรายจ่าย และขายเป็นรายได้เสริม โดยได้จดทะเบียนเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผักอินทรีย์โพธิ์ศรีสำราญ เมื่อปี 2558 อย่างไรก็ตาม การอาศัยน้ำผิวดิน (อ่างเก็บน้ำ ห้วย หนอง) ยังเสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีทางการเกษตร โดยเฉพาะสารเคมีกำจัดวัชพืชซึ่งใช้กันมากในไร่อ้อย ดังนั้น จึงพัฒนาโดยใช้น้ำบาดาลและสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ มาผลิตผักอินทรีย์เพื่อบริโภคในครัวเรือน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และแก้ปัญหาด้านสุขภาพและสารพิษทางการเกษตร
ต่อมาปี 2559 ได้ปรับพื้นที่บริเวณโคกดอนงู ซึ่งเป็นที่สาธารณะของหมู่บ้านโพธิ์ศรีสำราญ พื้นที่ 8 ไร่ 2 งาน เป็นสถานที่เพื่อปลูกผักอินทรีย์ โดยสำนักงานพลังงานจังหวัดหนองบัวลำภู ได้เจาะบ่อบาดาลและทำระบบสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์มาพักไว้ที่ถังสำรอง แล้วปล่อยไปยังถังพักย่อย ณ แปลงผักของสมาชิกแต่ละราย มีจำนวนสมาชิก 38 ครัวเรือน ๆ ละประมาณ 120 - 130 ตารางเมตร โดยสมาชิกได้เรียนรู้ในการผลิตผักปลอดสารพิษ เช่น การควบคุมแมลงศัตรูพืชด้วยพืชสมุนไพร กับดักต่าง ๆ การใช้สารชีวภัณฑ์ (เชื้อราไตรโคเดอร์ม่าควบคุมโรค) การผลิตปุ๋ยอินทรีย์และน้ำหมักชีวภาพใช้เอง โดยมีพ่อค้ามารับซื้อที่แปลง และจำหน่ายที่ตลาดนัดสีเขียว หน้าหมู่บ้านโพธิ์ศรีสำราญ ทำให้ไม่มีปัญหาด้านการตลาด ได้รับรองมาตรฐานการผลิตพืชตามระบบเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) และเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม (PGS) สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เกษตรกรผลิตพืชอินทรีย์ เพื่อให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคปลอดภัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้น้ำบาดาลเพื่อลดการปนเปื้อนจากสารเคมีทางการเกษตร และสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่สะอาด ลงทุนครั้งเดียวใช้ได้หลายปี สามารถทำการเกษตรได้ตลอดปี แก้ปัญหาความยากจน ทำให้สมาชิกมีรายได้จำนวน 33,630 บาท/คน/ปี
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวระหว่างเยี่ยมนิทรรศการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ พลังงานทดแทน ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเกษตรกร และแปลงปลูกผักอินทรีย์ว่า ขอให้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี อาทิ แผนที่เกษตร (Agri map) เพื่อใช้เกิดผลผลิตสูงสุด รวมทั้งการเกษตรแปลงใหญ่ ที่จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งตลาดต่างประเทศให้ความสำคัญด้านอาหารปลอดภัย พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังชื่นชมชุมชนหัวนา ที่รวมกลุ่มกันใช้ประโยชน์พื้นที่สาธารณะ เป็นแปลงเกษตรชุมชน จากเดิมเคยเป็นพื้นที่รกร้าง เป็นตัวอย่างที่ดีที่อยากให้ชุมชนอื่นนำไปดำเนินการ สำหรับการใช้ประโยชน์จากน้ำบาดาลนั้น จะมอบหมายให้มีความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพลังงาน ไปช่วยกันพิจารณาขุดเจาะน้ำบาล เพื่อให้บ่อน้ำดาบาลสามารถใช้ได้จริง ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรียังได้อุดหนุนสินค้าปลาแปรรูป ปลาตากแห้งและปลาส้ม ของชาวโพธิ์ศรีสำราญ ตำบลหัวนา อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ด้วย
----------------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th