นายกรัฐมนตรีประชุม นบข.ครั้งที่ 1/2561 เห็นชอบแนวทางกำหนดมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร และรักษาเสถียรภาพราคาข้าวปีการผลิต 61/62 ด้านการผลิตและด้านการตลาด

ข่าวทั่วไป Friday March 30, 2018 14:11 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุม นบข.ครั้งที่ 1/61 เห็นชอบแนวทางกำหนดมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร และรักษาเสถียรภาพราคาข้าวปีการผลิต 61/62 ด้านการผลิตและด้านการตลาด ปลัด พณ. เผยคาดความต้องการใช้ข้าวปีการผลิต 61/62 อยู่ที่ 30.525 ล้านตันข้าวเปลือก

วันนี้ (29 เม.ย.61) เวลา 09.30 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 1/2561 โดยมีพลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม ซึ่งภายหลังการประชุม นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้แถลงผลการประชุมสรุปสาระสำคัญดังนี้

ที่ประชุม นบข. รับทราบแผนการตลาดและการผลิตข้าวครบวงจร โดยในฤดูกาลผลิต 2560/61 สามารถลดพื้นที่เพาะปลูกข้าวลงเหลือ 66.01 ล้านไร่ มีผลผลิต 30.45 ล้านตัน ซึ่งคณะอนุกรรมการที่ดูแลด้านการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจรได้ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งเกษตรกร ผู้ซื้อข้าว ผู้ที่ส่งออกข้าว และดูความต้องการใช้ข้าว (ดีมานด์) ในปี 2562 โดยคาดว่าความต้องการใช้ข้าวในปีการผลิต 2561/62 จะอยู่ที่ 30.525 ล้านตันข้าวเปลือก ซึ่งเป็นบวกขึ้น 3.45 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นข้าวเพื่อการส่งออกประมาณ 14.69 ล้านตันข้าวเปลือก ข้าวเพื่อการบริโภค 12 ล้านตันข้าวเปลือก ข้าวเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมประมาณ 2.4 ล้านตันข้าวเปลือก และข้าวเพื่อใช้ทำเมล็ดพันธุ์ 1.39 ล้านตัน ทั้งนี้ ได้มีการแยกชนิดข้าวตามความต้องการของตลาด เพื่อในด้านการผลิตจะได้ดำเนินการให้สอดคล้องกัน เพราะนโยบายรัฐบาลเน้นว่าต้องเป็นการผลิตตามความต้องการของตลาด โดยในแง่ของตลาด ได้แยกข้าวที่ต้องการออกเป็นข้าวหอมมะลิ 6.419 ล้านตันข้าวเปลือก ข้าวหอมไทยหรือข้าวจังหวัด 1.609 ล้านตันข้าวเปลือก ข้าวเจ้าหรือข้าวขาว 15.232 ล้านตันข้าวเปลือกที่ข้าวขาวนี้ยังได้แยกเป็น 1) ข้าวพื้นแข็ง 9.82 ล้านตันข้าวเปลือก 2) ข้าวพื้นนิ่ม 1.69 ล้านตันข้าวเปลือก และ 3) ข้าวนึ่ง 3.72 ล้านตันข้าวเปลือก ข้าวเหนียว 7 ล้านตันข้าวเปลือก และข้าวเฉพาะ เช่น ข้าวสี ข้าว กข 43 ข้าวอินทรีย์ อีกประมาณ 260,000 ตันข้าวเปลือก

ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า พร้อมกันนี้ที่ประชุม นบข. ได้เห็นชอบแนวทางการกำหนดมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2561/2562 ด้านการผลิตและด้านการตลาด และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำรายละเอียดโครงการฯ ด้านการตลาด และงบประมาณนำเสนอ นบข. ต่อไป ทั้งนี้ กรอบการดำเนินการภายใต้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ในส่วนของด้านการผลิต กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะทำแผนการดำเนินการ เช่น ขยายการดำเนินการทำนาแปลงใหญ่ให้มากขึ้น ส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์เพิ่มขึ้น โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายไว้ 600,000 ไร่ ส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพชั้นเลิศ ส่งเสริมการผลิตและตลาดข้าวพันธุ์ กข43 และมีการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตข้าวในพื้นที่ลุ่มต่ำ

สำหรับในส่วนของด้านการตลาด ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการข้าว ประกอบด้วยภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร และนักวิชาการ เพื่อพิจารณาทิศทางของข้าว ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นว่ามาตรการของรัฐในปีที่ผ่านมาค่อนข้างจะได้ผล ราคาข้าวในปีนี้ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิที่มีราคาสูงมาก จึงอยากให้คงมาตรการเดิมที่ดำเนินการอยู่ ในการดึงข้าวออกจากตลาด ทั้งในแง่ของการช่วยเหลือเกษตรกรในภาพรวม คือการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยว ค่าปรับปรุงคุณภาพข้าว การชะลอการขายข้าวเปลือกโดยนำข้าวไว้ในยุ้งฉาง การให้สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวกับสถาบันการเกษตร และโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวหรือโรงสี

นอกจากนั้น ที่ประชุม นบข. เห็นชอบให้มีการเพิ่มโครงการสินเชื่อเพื่อสร้างยุ้งฉางให้เกษตรกรและสถาบันเกษตร ที่เป็นการให้เงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษสำหรับการดำเนินการ โดยกำหนดให้เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อชะลอขายข้าวเปลือกต่อไปทุกปีจนกว่าจะชำระหนี้หมด

พร้อมกันนี้ ที่ประชุม นบข. เห็นชอบให้มีการระบายข้าวในสต็อกของรัฐ กลุ่ม 1 ข้าวคุณภาพสำหรับคนบริโภคในส่วนที่เหลืออยู่อีกจำนวน 44,000 ตัน โดยให้เริ่มระบายข้าวในเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้ สำหรับข้าวกลุ่มที่ 2 ข้าวอาหารสัตว์ และข้าวกลุ่ม 3 ที่ไม่ใช่ข้าวสำหรับคนบริโภคหรือข้าวอาหารสัตว์ นั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อเตรียมการระบายข้าวต่อไป ทั้งนี้ ในการระบายข้าวแต่ละครั้งได้มีการพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการระบายข้าว เพื่อไม่ให้กระทบกับราคาข้าวในประเทศ

นอกจากนี้ ตามที่รัฐบาลมุ่งเน้นส่งเสริมข้าวที่มีคุณภาพสูง ที่ประชุม นบข. จึงได้อนุมัติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการด้านการผลิตและการตลาดสินค้าข้าวอินทรีย์และข้าวเฉพาะ ซึ่งข้าวเฉพาะ ได้แก่ ข้าวอินทรีย์ ข้าวสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ข้าวสี ข้าวเฉพาะถิ่น ข้าวที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น โดยคณะอนุกรรมการฯ มีหน้าที่ศึกษาและเสนอแนะแนวทาง ทั้งในแง่ของการส่งเสริมและแก้ไขปัญหา เพื่อทำให้ข้าวพิเศษกลุ่มดังกล่าว มีการขยายการผลิตเพิ่มขึ้นและมีการเชื่อมโยงกับตลาด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“แนวโน้มราคาข้าวในปีนี้น่าจะดีต่อเนื่อง ถ้าดูในแง่ตลาดโลกก็ยังมีความต้องการและมีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง การเจรจาขายข้าวแบบจีทูจีกับจีนในรอบที่ 5 ก็ได้มีการตกลงราคากันแล้ว โดยมีกำหนดส่งมอบข้าวในเดือนเมษายนนี้ และยังมีเอกชนที่ชนะการประมูลข้าวในหลายโครงการที่ต่างประเทศเปิดการประมูลด้วย” ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าว

นายกรัฐมนตรี ประธาน นบข. ยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันส่งเสริมการบริโภคน้ำนมข้าว พัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ให้มีการผลักดันตลาดน้ำนมข้าวให้เติบโต เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมสินค้าแปรรูปที่ทำจากข้าว เพิ่มมูลค่าให้กับเกษตรกรแล้ว น้ำนมข้าวยังเหมาะกับผู้ที่แพ้นมวัวหรือนมจากถั่วเหลือง ผู้วางแผนมีบุตร เพราะน้ำนมข้าว มีวิตามินบี 9 (โฟเลต) ที่สำคัญต่อพัฒนาการทารกในครรภ์ และ ผู้ป่วยโรคไขมันในเลือดสูงเพราะไม่มีคอเลสเตอรอล อีกด้วย

---------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ