รมต. นร. กอบศักดิ์ฯ ขอให้ยุวชนประชาธิปไตยช่วยกันพัฒนาประเทศไทยและเสริมสร้างประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

ข่าวทั่วไป Thursday March 29, 2018 14:13 —สำนักโฆษก

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้การต้อนรับคณะยุวชนประชาธิปไตยที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมและสนับสนุนความเป็นพลเมืองของเยาวชนในระบอบประชาธิปไตย เพื่อพัฒนาประเทศไทยให้ยั่งยืน

วันนี้ (29 มี.ค. 61) เวลา 13.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนให้การต้อนรับคณะยุวชนประชาธิปไตยและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 160 คน ที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมและสนับสนุนความเป็นพลเมืองของเยาวชนในระบอบประชาธิปไตย เพื่อพัฒนาประเทศไทยให้ยั่งยืน กิจกรรมยุวชนประชาธิปไตย ประจำปี 2561 โดยมี นายประกิจ ธนาเลิศสมบูรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานด้วย

ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้กล่าวรายงานว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กำหนดจัดโครงการส่งเสริมและสนับสนุนความเป็นพลเมืองของเยาวชนในระบอบประชาธิปไตย เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยให้ยั่งยืน กิจกรรมยุวชนประชาธิปไตย ประจำปีงบประมาณ 2561 สำหรับนักเรียน/นักศึกษา ที่เป็นเยาวชน ชาย-หญิง อายุระหว่าง 15 - 20 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายทั้งสายสามัญ และสายอาชีพ รวมทั้งระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่า จำนวน 2 รุ่นๆ ละ 160 คน รวมทั้งสิ้น 320 คน รุ่นที่ 1 วันที่ 14 - 23 มีนาคม 2561 และรุ่นที่ 2 วันที่ 28 มีนาคม - 6 เมษายน 2561 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และด้านกระบวนการทางนิติบัญญัติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 โดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อเยาวชนทั่วทุกภูมิภาคอย่างเท่าเทียม

การจัดกิจกรรมยุวชนประชาธิปไตย เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่หลากหลายของโครงการฯ ซึ่งให้ความสำคัญในเรื่องขององค์ความรู้ด้านการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะมีโอกาสได้ศึกษาดูงานในสถานที่สำคัญ ๆ ซึ่งเป็นกลไกในการขับเคลื่อนกระบวนการทางการเมืองการปกครองไทย เช่น ศาล และองค์กรอิสระ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การสหประชาชาติ และสถานที่ที่น้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้าง เป็นต้นเพื่อได้ศึกษาทั้งด้านองค์ความรู้ และประสบการณ์แล้ว เยาวชนจะสามารถนำมาบูรณาการ เพื่อแก้ปัญหาในกรณีศึกษาที่กำหนด ซึ่งมีรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งในเรื่องบทบาทสมมติ สถานการณ์จำลอง เวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การระดมสมองในกลุ่มย่อย ฯลฯ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่แสดงให้เห็นถึงการใช้องค์ความรู้ และทักษะในเชิงบูรณาการได้อย่างชัดเจน ผลงานที่เยาวชนได้สร้างขึ้นขณะเข้าร่วมกิจกรรม แสดงถึงศักยภาพของการเข้ามามีส่วนร่วมของเยาวชน ในกิจกรรมของสถาบันนิติบัญญัติ ซึ่งสามารถนำไปขยายผลในรูปแบบอื่น ทั้งการเผยแพร่ความรู้ การนำทักษะ และประสบการณ์ไปสานต่อให้เกิดประโยชน์ต่อเยาวชน และเป็นการสร้างเครือข่ายเยาวชนของสถาบันนิติบัญญัติเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมต่อไป

โอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อ “การปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และโครงการประชารัฐ” แก่เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ในตอนหนึ่งว่า เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการยุวชนประชาธิปไตยนั้น เป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยที่จะร่วมกันพัฒนาประเทศไทยและเสริมสร้างประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวมาโดยตลอดว่า การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนโดยที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังนั้น รัฐบาลกำลังเดินหน้าดูแลประชาชนคนไทยทั้งประเทศให้ได้ประโยชน์ของการพัฒนาอย่างแท้จริง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยได้มีเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย อย่างไรก็ตามรัฐบาลพร้อมที่จะขับเคลื่อนเดินหน้าแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ ที่ดินทำกินของประชาชน และเศรษฐกิจฐานราก เพื่อจะดูแลและนำไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ให้มีความมั่นคงมั่งคั่งอย่างยั่งยืน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

พร้อมขอให้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ได้มีพระราชดำรัสพระราชทานแก่บุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ความในตอนหนึ่งว่า “ขอให้ทุกคนมีความสำเร็จ ตัวของเศรษฐกิจพอเพียงต้องทำให้พอเพียง ถ้าเกิดพอเพียงประเทศก็จะไปได้ และขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จพอเพียง เพื่อให้บ้านเมืองไปพบความสำเร็จที่แท้จริง” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงได้มองเห็นปัญหาของราษฎรมายาวนานกว่า 40 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้มีโอกาสฟังคำที่พระองค์ท่านได้พระราชดำรัสในวันนั้น ต้องย้อนมองกลับมาคิดว่า แล้วที่เราทำอยู่วันนี้แท้จริงแล้วหรือยัง ซึ่งการพัฒนาวันนี้ยังไม่ทั่วถึงทุกภูมิภาคของประเทศ อีกทั้ง รัฐบาลนั้นให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ และแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเศรษฐกิจไทยจะเฟื่องฟูขึ้น และเป็นปีแห่งการขจัดความยากจน ผลักดันเม็ดเงินลงฐานราก กระจายรายได้ลงชุมชนอีกด้วย พร้อมกันนี้ ขอให้ยุวชนประชาธิปไตยทุกคนช่วยกันน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 ใช้ในการดำเนินชีวิต ดำรงตนให้เป็นคนดี ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม สุจริต มีวินัย และร่วมการสร้างสามัคคีปรองดองกัน เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศ ให้มีความเจริญก้าวหน้าซึ่งรัฐบาลก็ได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนประเทศและได้นำมาเป็นแนวทางในการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รวมทั้ง แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 เพื่อมุ่งเน้นที่จะน้อมนำไปสู่การปฏิบัติ การพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม ในทุกระดับ ด้วยการสร้างกลไกการขับเคลื่อนประเทศไทยให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป

พร้อมกันนี้ ขอให้เยาวชนทุกคนออมเพื่อมีเงินเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ออมแบบมีเป้าหมาย และออมระยะยาว โดยการออมเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องใส่ใจและปลูกฝังเยาวชนไทยในวันนี้ เพื่อการวางแผนทางการเงิน ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงในการลงทุนการสร้างอาชีพรายได้ ซึ่งทุกอาชีพสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเอง โดยการการปลูกฝังนิสัยการออมและการใช้เงินอย่างรู้คุณค่าตั้งแต่วัยเด็ก จะช่วยให้เยาวชนสามารถกำหนดพฤติกรรมทางการเงินของตนเองได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะถูกพัฒนาไปสู่การบริหารการเงินอย่างมีวินัยในระยะยาว

…………………………….

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ