วันนี้ (4 เมษายน 2560) พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยภารกิจด้านต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ ลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 3 (The 3rd Mekong River Commission Summit) ในวันที่ 5 เมษายน 2561 ณ จังหวัดเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วย 1.ผู้นำจากประเทศสมาชิกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง(Mekong River Commission: MRC) ได้แก่ ไทย กัมพูชา ลาว และเวียดนาม 2.รัฐมนตรีจากประเทศคู่เจรจา ได้แก่ จีนและเมียนมา 3.ผู้แทนรัฐบาลประเทศหุ้นส่วนการพัฒนาและองค์การระหว่างประเทศ เป็นการประชุมระดับผู้นำของประเทศสมาชิกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงที่มีกำหนดจัดขึ้นทุก 4 ปี เพื่อเป็นเวทีสำคัญด้านทรัพยากรน้ำระดับภูมิภาค ในการหารือและกำหนดนโยบายความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและทรัพยากรที่เกี่ยวข้องในลุ่มน้ำโขง
วัตถุประสงค์ของการประชุมครั้งนี้ คือ 1.ประเทศสมาชิกจะร่วมแสดงจุดยืนร่วมกันในการดำเนินการตามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2538 และสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals) 2.เพิ่มพูนความร่วมมือกับประเทศในลุ่มน้ำโขงตอนบน ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 3.เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) และกรอบความร่วมมืออื่นๆ ในภูมิภาครวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับหุ้นส่วนการพัฒนาต่อแนวความร่วมมือของ MRC และ 4.แลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้และการประยุกต์สำหรับการบริหารจัดการลุ่มน้ำโขง ร่วมกับลุ่มน้ำนานาชาติอื่นๆ
ประเด็นที่นายกรัฐมนตรีจะผลักดันในการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ ผลักดันความร่วมมือการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านภัยพิบัติจากภาวะน้ำแล้ง น้ำท่วม และคุณภาพน้ำ เสริมสร้างบทบาทการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงให้ เป็นศูนย์กลางความรู้ด้านทรัพยากรน้ำและทรัพยากรที่เกี่ยวข้องในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง สนับสนุนให้นำองค์ความรู้ทางเทคนิควิชาการที่มี เพื่อพัฒนาสู่ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสนับสนุนการตัดสินใจด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและทรัพยากรที่เกี่ยวข้องในลุ่มน้ำโขง ซึ่งประเทศสมาชิก หน่วยงานภาครัฐ องค์กรพัฒนาและประชาชน สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ไทยจะผลักดันให้ คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงมีความเข้มแข็งและโดดเด่น โดยการร่วมออกแบบองค์กร ให้ทันต่อสถานการณ์การพัฒนาด้านต่างๆ ทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค ซึ่งมุ่งเน้นการดำเนินงานที่สำคัญ คือ การบริหารจัดการอย่างมีธรรมภิบาล การมุ่งเน้นนวัตกรรม การพัฒนาบนฐานทรัพยากร (Nature-Based Solutions) การใช้ทรัพยากรน้ำเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยพัฒนาสู่การเป็นเวทีด้านการทูตเรื่องน้ำของภูมิภาค
สำหรับผลของการประชุมฯ ผู้นำรัฐบาลประเทศสมาชิกจะรับรองปฏิญญาเสียมราฐ ค.ศ. 2018 ซึ่งเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์เชิงนโยบายของประเทศสมาชิกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ในการมุ่งเน้นการดำเนินงานตามพันธกรณีของความตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2538 มีสาระสำคัญ คือ การเพิ่มพูนความพยายามและความเป็นหุ้นส่วนของประเทศสมาชิก ในการพัฒนาและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และทรัพยากรที่เกี่ยวข้อง เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของลุ่มแม่น้ำโขง โดยไม่มีการลงนามและไม่มีถ้อยคำหรือบริบทใดที่มุ่งจะก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ
- 07.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6) ไปยังจังหวัดเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา
- 08.30 น. นายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา
- 09.00 น. นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 3 อย่างไม่เป็นทางการ (Retreat)
- 10.30 น. นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 3 แบบเต็มคณะ (Plenary) - 14.30 น. นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางกลับประเทศไทย โดยจะเดินทางถึงไทยเวลาประมาณ 15.30 น.
ที่มา: http://www.thaigov.go.th