วันนี้ (10 พฤษภาคม 2561) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 109 ชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่ 2/2561 สรุปสาระการประชุม ดังนี้
ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินกิจกรรม "ตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อป้องกันและปราบปรามการละเมิดสิทธ์ผู้บริโภค (ช่วงเทศการสงกรานต์และปิดภาคการศึกษา)" โดยประธานพร้อมคณะผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคและสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและมหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกไปตรวจเยี่ยมการให้บริการเครื่องเล่นแก่ผู้บริโภค เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2561 ณ สวนสยาม เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ผลการตรวจสอบพบว่าการดูแลความปลอดภัยของเครื่องเล่นภายในสวนน้ำและสวนสนุก มีมาตรฐานตามที่กำหนดไว้ โดยมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ และหากมีกรณีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นจากการใช้บริการของผู้ประกอบการ ทางสวนสยาม จะมอบหมายเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ได้มีการกำชับให้บริษัทฯ มีการตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องเล่นต่าง ๆ ภายในสวนสยามอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภค เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยอย่างครบถ้วน
พร้อมกันนี้ มีมติเห็นชอบแนวทางการประชาสัมพันธ์ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค โดยมีประเด็นสำคัญได้แก่ การประชาสัมพันธ์เชิงป้องกัน เพื่อสร้างมาตรการให้ความรู้กับผู้ประกอบธุรกิจไม่ให้กระทำผิดกฎหมาย รวมทั้ง สร้างความตระหนักรู้ให้ผู้บริโภครักษาสิทธิ์ของตนเอง รวมทั้งเสริมสร้างภาพลักษณ์ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะเป็นผู้ที่พิทักษ์สิทธิของผู้บริโภคด้วยการสร้างเครือข่ายจากภาคประชาชนในรูปแบบ "สคบ. อาสา" ซึ่งจะมีบัตรประจำตัว สคบ. อาสา เพื่อความถูกต้องและชัดเจนในการออกไปปฏิบัติงานฯ ในการช่วยเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแส ซึ่งเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนผู้ประกอบการ และเครือข่าย สคบ. อาสา ครอบคลุมกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑลตลอดจะมีต่อยอดขยายผลไปสู่ต่างจังหวัดครอบคลุมทุกภาคของประเทศ
ตลอดจนการให้ความสำคัญกับเนื้อหาและรูปแบบของการสื่อสารงานคุ้มครองผู้บริโภคด้วยการนำเสนอที่ใช้ถ้อยคำสื่อสารไปยังผู้บริโภคด้วยข้อความประชาสัมพันธ์ที่สั้น กระชับ และเข้าใจง่ายแก่ผู้บริโภคผ่านสื่อทุกช่องทางอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ดำเนินคดีกับผู้ประกาอบธุรกิจด้านสินค้าและบริการทั่วไป เช่น ธุรกิจด้านให้สถานบริการการออกกำลังกาย บริการเสริมความงาม ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ธุรกิจซื้อขายรถยนต์ และอุปกรณ์เครื่องครัว เป็นต้น จำนวน 18 เรื่อง รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับบ้านจัดสรรและคอนโด จำนวน 22 เรื่อง อีกด้วย
ตอนท้ายของการประชุม ประธานกล่าวชื่นชมที่มีการบูรณาการร่วมระหว่าง สคบ. อย. และ สตช. ที่จะให้ความคุ้มครองผู้บริโภคมีผลรวดเร็ว โดย Action Plan พร้อม กสทช. ส่งผลให้มีการระงับโฆษณาเกินจริงได้รวดเร็ว ทันสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจบัน รวมทั้งการรีวิวสินค้าหรือบริการที่เกินจริง ซึ่งถูกระงับไปอย่างรวดเร็วสอดคล้องกับการดำเนินงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนผู้บริโภคอย่างเป็นรูปธรรม
...........................................................................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th