วันนี้ (16 พฤษภาคม 2561) เวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ครั้งที่ 4/2561 สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานของ คณะที่ 1 คณะอนุกรรมการปฏิรูป ระบบงานความมั่นคง ด้านการปฏิรูประบบที่พักแรมและข้อมูลคนเข้าเมือง กำหนดกลุ่มเป้าหมาย เป็น 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มนักท่องเที่ยว นักลงทุน และคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย 2) กลุ่มแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ที่อยู่ระหว่างกระบวนการฯ ของกระทรวงแรงงาน เห็นควรให้ทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่ดำเนินการจัดเก็บข้อมูล โดยเร่งรัดพัฒนาระบบฐานข้อมูล และเห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นและจริงจัง โดยสำนักยุทธศาสตร์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเจ้าภาพหลัก โดยจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อกำหนดรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลที่พักแรมและคนเข้าเมืองที่เหมาะสม และรองรับตามภารกิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และศูนย์บูรณาการและขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน กอ.รมน. ทำหน้าที่อำนวยการและประสานงานให้เกิดการบูรณาการร่วมกัน และให้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นหน่วยงานหลักในการให้คำแนะนำทางเทคนิคในการวางระบบเชื่อมโยงและการจัดเก็บข้อมูล
ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานของ คณะที่ 4 คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม การจัดการภัยพิบัติ และภาวะโลกร้อน ซึ่งข้อมูลยางพาราที่ตรวจพบทั้งประเทศ 30.48 ล้านไร่ พื้นที่ยางพาราในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 5.2 ล้านไร่ โดยมีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหา ดังนี้
1) สำรวจข้อมูลพื้นที่ปลูกยางพารา โดยเทคโนโลยีสำรวจระยะไกล และจำแนกการถือครองและมาตรการจัดการอย่างเหมาะสม โดยแบ่งเป็น นายทุน และผู้ยากไร้
2) ลดพื้นที่และปริมาณน้ำยาง โดยการทวงคืนพื้นที่ป่า และเร่งรัดการดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 25 เพื่อตัดฟันยางพารา ตามหลักวิชาการเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ และป่าต้นน้ำ
3) บรรเทาความเดือดร้อนผู้ยากไร้ โดยกำหนดแนวทางให้มีที่ทำกิน จากโครงการ คทช. ของภาครัฐ
4) บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายตามแผนงาน ต่อกลุ่มนายทุนผู้กระทำผิดและเร่งรัดผลคดีให้สัมฤทธิ์ผล
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานของ คณะที่ 6 คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการปรับภูมิทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เรื่องการรื้อย้ายชุมชนรุกล้ำลำน้ำ จากเดิมรื้อย้ายได้ 147 หลัง เพิ่มขึ้นเป็น 156 หลัง คงเหลือ 126 หลังคาเรือน จะรื้อย้ายเมื่อบ้านมั่งคงปลูกสร้างแล้วเสร็จ และโรงเรียนปิดเทอม ประมาณเดือน ต.ค.61 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า กรมศิลปากร และ กรมเจ้าท่า เข้าร่วมดำเนินการ
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานของ คณะที่ 7 คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย IUU ที่รัฐบาลเร่งดำเนินการเพื่อให้ได้ตามมาตรฐานสากล
พร้อมทั้ง ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานของ คณะที่ 8 คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน ด้านความคืบหน้าการตรวจสอบเพื่อออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ ทั้งสิ้นจำนวน 17 สายการบิน จากจำนวนทั้งหมด 20 สายการบิน และรับทราบผลรายงานการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัย (USAP-CMA) ตามที่ได้แจ้งไว้กับ ICAO
อีกทั้ง ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานของ คณะที่ 9 คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และแรงงานผิดกฎหมาย เรื่อง การยกร่างกฎหมายเพื่อรองรับการให้สัตยาบัน พิธีสารภายใต้อนุสัญญา ILO ฉบับที่ 29 ว่าด้วยแรงงานบังคับ
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานของ คณะที่ 11 คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สินค้าเกษตรสำคัญ 5 ชนิด (ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน) 1) โครงการส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐ เป้าหมาย 200,000 ตัน หรือตามความต้องการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐจำนวน 8 หน่วยงาน ซึ่งแจ้งความประสงค์ใช้ยาง จำนวน 72,384.55 ตัน โดยมีมติเห็นชอบการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร ดังนี้ 1. โครงการส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐ 2.โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกร 3.โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง (น้ำยางข้น) 4.โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) และ 5.โครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง และเห็นชอบมาตรการลดปริมาณการผลิต โครงการควบคุมปริมาณการผลิต โครงการควบคุมปริมาณผลผลิต โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และโครงการพัฒนาอาชีพชาวสวนยางรายย่อยเพื่อความยั่งยืน
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานของ คณะที่ 12 คณะอนุกรรมการเพื่อบูรณาการโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ตามแผนแม่บทโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง (พ.ศ. 2559 - 2567) ด้านการก่อสร้างและการพัฒนาโครงการ ซึ่งมีความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการฯ รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม (ระยะที่ 1 – 4 แปลง G จำนวน 6,546 หน่วย) ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จได้ 82.45 % อีกทั้ง ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานการของ โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณป้อมมหากาฬ ซึ่งได้ดำเนินการปรับภูมิทัศน์เป็นสวนสาธารณะแล้วเสร็จ พร้อมส่งมอบให้กรุงเทพมหานครเข้าดูแลและบริหารจัดการในภาพรวมต่อไป
ตอนท้ายของการประชุม ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม โดยมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพนธุ์ ตันยุวรรธนะ) เป็นประธานอนุกรรมการ โดยมีอำนาจหน้าที่หลักในการติดตามและเร่งรัดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับประเด็นความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้ข้อยุติร่วมกันแล้ว เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
...........................................................................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th