รัฐบาลยืนยันเจตนารมณ์ในการต่อต้านการค้ามนุษย์

ข่าวทั่วไป Wednesday June 6, 2018 15:11 —สำนักโฆษก

รัฐบาลยืนยันเจตนารมณ์ในการต่อต้านการค้ามนุษย์

วันนี้ (6 มิ.ย. 2561) เวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันต่อต้านการค้ามนุษย์ ประจำปี 2561 ภายใต้แนวคิด “ประชารัฐร่วมใจ ต้านภัยค้ามนุษย์” โดยมีบุคคลระดับสูงภาครัฐประกอบด้วย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยบุคคลสำคัญจากทุกภาคส่วน ได้แก่ เอกอัครราชทูตและผู้แทนสถานทูตต่างๆ องค์การระหว่างประเทศ หน่วยงานภาครัฐ เอกชนและสื่อมวล เข้าร่วมงาน สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาการค้ามนุษย์ โดยได้ประกาศให้ “การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์” เป็นวาระแห่งชาติ และมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการดำเนินคดี และการบังคับใช้กฎหมาย รวมไปถึงการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกรายที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2561 รัฐมนตรีว่ากระทรวงแรงงาน ได้เข้าพบผู้อำนวยการใหญ่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เพื่อยื่นจดทะเบียนสัตยาบันพิธีสารส่วนเสริมอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 29 ว่าด้วยแรงงานบังคับ ปี ค.ศ.1930 ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการปฏิรูปการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในระบบทุกมิติและเป็นสากล

ด้านการดำเนินคดีและบังคับใช้กฎหมาย รัฐบาลได้กำชับหน่วยงานด้านกฎหมาย สืบสวน ปราบปราม เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ในการพัฒนาระบบฐานข้อมูล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนปราบปรามอาชญากรรม และเพื่อให้การดำเนินคดีมีความชัดเจนและรวดเร็วยิ่งขึ้น ให้ดำเนินการเป็นไปตามหลักเกณฑ์และหลักฐาน เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมมีความเที่ยงตรง และโปร่งใส

ด้านการคุ้มครองช่วยเหลือ รัฐบาลคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดและการไม่เลือกปฏิบัติกับผู้เสียหาย ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณองค์กรพัฒนาเอกชน และองค์การระหว่างประเทศ ที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มีแผนจัดเงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อสนับสนุนองค์กรพัฒนาเอกชนในการจัดตั้งสถานคุ้มครอง (Shelter) และกล่าวเชิญชวนให้องค์กรพัฒนาเอกชนร่วมจดทะเบียนเป็นสถานคุ้มครองเอกชนเพื่อเป็นทางเลือกในการเข้ารับบริการนอกเหนือจากสถานคุ้มครองฯ ของรัฐ

ด้านการป้องกัน เป็นมาตรการที่สำคัญมาก หากสามารถป้องกันที่ต้นเหตุของการค้ามนุษย์ได้จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาการค้ามนุษย์ ดังนั้น รัฐบาลจึงได้ดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีนโยบายรองรับแรงงานต่างด้าวในประเทศไทยได้ทำงานอย่างถูกต้องและเป็นไปตามหลักสากล รัฐบาลได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ และตระหนักถึงภัยของการค้ามนุษย์แก่ประชาชน รวมไปถึงรณรงค์ลดอุปสงค์การแสวงหาประโยชน์ทางเพศที่แฝงมากับการท่องเที่ยว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แสดงความกังวลต่อปัญหาดังกล่าว และได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันสนับสนุนเด็กและเยาวชนให้มีภูมิคุ้มกันในสังคม รวมทั้งเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานยังคงเดินหน้าปราบปรามผู้กระทำความผิดและขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเด็ดขาดและจริงจัง โดยเฉพาะการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้มอบรางวัลรางวัลดีเด่นด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในปี 2561 ให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน หน่วยงาน ภาครัฐ และประชาชน นักเรียน นักศึกษา โดยขอให้ทุกท่านรักษาความดีไว้เป็นแบบอย่าง เพื่อให้การดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นรูปธรรม และร่วมกันต่อต้านการค้ามนุษย์ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์สากล คือ “การคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับนานาชาติสืบต่อไป

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ