รอง นรม. พล.อ.อ.ประจินฯ เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการติดตามการปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาล (คตน.) ครั้งที่ 6/ 2561

ข่าวทั่วไป Thursday June 21, 2018 14:32 —สำนักโฆษก

รองนายกรัฐมนตรี ฯ เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการติดตามการปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนด้านพลังงาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านการผลิตและการตลาดกุ้งทะเลแก่กลุ่มเกษตรกรอย่างยั่งยืน

วันนี้ (21 มิถุนายน 2561) เวลา 15.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามการปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาล (คตน.) ครั้งที่ 6/ 2561 สรุปสาระสำคัญดังนี้

ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบ แนวทางการบริหารจัดการไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ชายแดน ยุทธศาสตร์ กระทรวงพลังงาน (พน.) ตามแนวนโยบายแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ภายใต้กรอบแผน 5 เสาหลัก ที่มุ่งสร้างประสิทธิภาพพลังงานอย่างสมดุล และก้าวสู่สังคมสีเขียวด้วยพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งสร้างรายได้ให้กับประชาชนและประเทศชาติ เป็นการยกระดับพ้นกรอบประเทศรายได้ปานกลาง สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล โดยแผนขับเคลื่อนในระดับชุมชนและประชาชน ที่มุ่งเน้นสร้างรายได้ และลดรายจ่าย ผ่านโครงการประชารัฐ โดยสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม ด้วยการดำเนินโครงการพลังงานชุมชนและส่งเสริมให้ชุมชนมีรายได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ พน. อยู่ระหว่างประสานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในการดำเนินการเชิญชวนและสรรหาชุมชนประชารัฐ วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ จะมีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดการสร้างงานให้แก่ชุมชนในพื้นที่ ทั้งโดยตรงและทางอ้อม อีกทั้งชุมชนได้รับการพัฒนาท้องถิ่น จากเงินกองทุนรอบโรงไฟฟ้า เสริมสร้างความเข้มแข็งและการมีส่วนร่วมของชุมชน เกิดความรู้ความเข้าใจและมีทัศนคติที่ดีต่อโรงไฟฟ้า สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้และขยายผลไปสู่ชุมชนอื่นๆ ต่อไปได้

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบ แนวทางการแก้ไขปัญหาด้านการผลิตและการตลาดกุ้งทะเลอย่างยั่งยืน ซึ่งสถานการณ์ราคากุ้งลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 เกษตรกรประสบปัญหาการขาดทุนและรวมตัวกันเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2561 ณ จังหวัดสงขลา ทั้งนี้ จากข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ให้เร่งแก้ไขปัญหาด้านการผลิตและการตลาดกุ้งทะเลอย่างยั่งยืน ซึ่งความก้าวหน้าการดำเนินการ สรุป ดังนี้ 1.การช่วยเหลือจากภาคเอกชน ลดราคาลูกพันธุ์กุ้งขาวแวนนาไม ลดราคาอาหารกุ้ง และลดราคาปัจจัยการผลิต 2.การรับซื้อกุ้งในราคานำตลาด จัดทำโครงการประชารัฐรักษาเสถียรภาพราคากุ้งขาวแวนนาไมปี 2561 3.การส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ จัดกิจกรรมผู้ผลิตพบผู้บริโภค นำผลผลิตกุ้งมาจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า จัดตั้งศูนย์บริโภคกุ้ง ณ จุดท่องเที่ยว จัดตั้งห้องเย็นขนาดเล็ก และประชาสัมพันธ์ และจัดจำหน่ายสินค้านอกพื้นที่ 4.การเพิ่มขีดความสามารถให้แก่เกษตรกรในด้านการผลิตและการตลาด

รวมทั้งโครงการเพิ่มขีดความสามารถด้านการผลิตและการตลาดกุ้งทะเลเพื่อการบริโภคภายในประเทศ ปี 2561 และการเพิ่มช่องทางการตลาดโดยการจัดประชุมหารือและจับคู่ทางธุรกิจ และ 5.การลดต้นทุนการผลิตในด้านพลังงาน โดยกรมประมงยื่นหนังสือถึงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคขอความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเลใน 4 ประเด็น ดังนี้ 1. ลดค่าไฟฟ้าหน้าฟาร์ม 2. ขอยกเลิกค่า Demand charge Demand charge Demand charge โดยคิดค่าไฟตามจริงเป็นระยะเวลา 2 ปี 3. ขอเปลี่ยนประเภทอัตราค่าไฟฟ้าให้เป็นประเภทการเกษตร และ 4. ขอผ่อนผันการชำระค่าไฟฟ้า

ทั้งนี้ ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งสามารถผลิตกุ้งทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มเกษตรกรในการผลิตกุ้งทะเลที่มีคุณภาพออกจาหน่ายสู่ตลาดได้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบ การติดตามการดำเนินโครงการพัฒนาเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชนคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งกรุถงเทพมหานคร เริ่มเดินเรือเมื่อ 5 ก.ย. 59 โดยการดำเนินการในส่วนของกรมเจ้าท่า ได้ประชาสัมพันธ์และแนะนำข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเดินเรือให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานหน่วยเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษม สำรวจ ตามแบบรายการสารวจบุคลากรและเรือ แจ้งให้ผู้ประกอบการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยบริเวณสี่แยกมหานาค โดยการติดกระจกนูน ไฟสปอร์ตไลท์ที่เสาไฟฟ้า และป้ายแจ้งเตือนทางแยก และแนะนำให้ปฏิบัติตามกฎหมายการเดินเรือ เพื่อความปลอดภัยในการใช้เรือ โดยคนประจำเรือทุกคนต้องมีประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความสามารถจึงจะทำการในเรือได้ มีการตรวจสอบอุปกรณ์ความปลอดภัยประจำเรือ อาทิ อุปกรณ์ชูชีพให้ครบจำนวนผู้โดยสาร ไฟเรือเดิน เป็นต้น ซึ่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้าไทยฯ เรือที่ใช้ในน่านน้าไทยต้องมีใบอนุญาตใช้เรือ เว้นแต่เรือราชนาวี โดยผู้ใดใช้เรือที่มิได้รับอนุญาตต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท

........................................................................

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ