นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 พร้อมกับพสกนิกรทุกหมู่เหล่าทั่วทั้งประเทศ
วันนี้ เวลา 20.09 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพันเอกหญิง ท่านผู้หญิงจิตรวดี จุลานนท์ เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โดยมี คณะรัฐมนตรี ข้าราชการทั้งตำรวจ ทหาร และพลเรือน นิสิต นักศึกษา พ่อค้า ประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมในพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรโดยพร้อมเพรียงกัน
นายวรวิทย์ วีรบวรพงศ์ ประธานคณะกรรมการจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา “5 ธันวามหาราช” กล่าวรายงานถึงความร่วมมือในการจัดงานฯ เสร็จแล้ว นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา “5 ธันวามหาราช” กล่าวรายงานสรุปว่า เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่งในวันนี้ ซึ่งเป็นวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยรัฐบาลได้มอบให้มูลนิธิ 5 ธันวามหาราช รับผิดชอบในการจัดงานถวายพระพร และจัดมหรสพสมโภช ในนามพสกนิกรชาวไทย เช่นที่เคยปฏิบัติทุกปีเสมอมา ดังนั้น มูลนิธิ 5 ธันวามหาราชจึงเป็นองค์กรหลักภาคประชาชนในการดำเนินงานร่วมกับข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร และประชาชนทุกสาขาอาชีพ ซึ่งทุกฝ่ายได้ร่วมกันทำงานด้วยความปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสแสดงความจงรักภักดี ด้วยความสำนึกและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น การจัดงานมีตั้งแต่วันที่ 1-9 ธันวาคม 2550 โดยมีงานพิธีการ กิจกรรม เฉลิมพระเกียรติต่าง ๆ อาทิ พิธีถวายพระพรชัยมงคลของศาสนาต่าง ๆ พิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพร โดยผู้นำศาสนาต่าง ๆ ในประเทศไทย มาร่วมกันถวายพระพร และที่สำคัญยิ่งคือพิธีถวายเครื่องราชสักการะจุดเทียนชัยถวายพระพร และถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ นอกจากนั้น มูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ร่วมกับกรุงเทพมหานคร โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และองค์กรต่าง ๆ ยังได้สนับสนุนการจุดเทียนชัยถวายพระพรของประชาชนตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินจากพระบรมมหาราชวังถึงพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน โดยมีการถ่ายทอดสดส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกให้ได้ชื่นชมอีกด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ถวายเครื่องราชสักการะ และถวายคำนับ นายกรัฐมนตรีจุดเทียนชัย กล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ และกล่าวนำถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ ดังนี้ “ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ที่มาชุมนุมพร้อมเพรียงกันอยู่ ณ มณฑลพิธีแห่งนี้และในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ มีความปลาบปลื้มปีติยินดีเป็นล้นพ้น ที่ได้มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในมหามงคลสมัยที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม ศกนี้
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายและพสกนิกรทั่วประเทศล้วนมีความปีติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงหายจากพระอาการประชวร และทรงคืนสู่พระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษานี้ ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ต่างชื่นชมโสมนัส พร้อมใจกันจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่และต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อแสดงความจงรักภักดีและความเทิดทูนในพระมหากรุณาธิคุณเหนือเศียรเกล้า ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงพระวิริยอุตสาหะบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ตลอดระยะเวลาอันยาวนานนับแต่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อพุทธศักราช 2489 ตราบจนปัจจุบัน
ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงอุทิศเวลาและทรงทุ่มเทกำลังพระวรกาย กำลังพระปัญญา ตลอดจนกำลังพระราชทรัพย์ และทรงฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคน้อยใหญ่ เพื่อสร้างสรรค์ความเจริญแก่ชาติบ้านเมืองโดยไม่เคยทรงย่อท้อ ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรทั่วทุกภูมิภาค แม้ในท้องถิ่นทุรกันดารห่างไกลหรือพื้นที่ที่มีอันตรายก็มิได้ทรงหวาดหวั่น ทรงมุ่งมั่นขจัดทุกข์ภัยแก่อาณาประชาราษฎร์ พร้อมทั้งได้พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเป็นจำนวนมากเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน ได้พระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้คนไทยดำรงชีวิตอย่างมีเหตุผล นำความผาสุกยั่งยืนมาสู่ตนเองและประเทศชาติ ทรงบูรณาการการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การบริหารจัดการด้านดิน น้ำ พืชพันธุ์ ธัญญาหาร และสิ่งแวดล้อม ประสบผลสำเร็จ เป็นคุณูปการอย่างยิ่งใหญ่แก่ราษฎรทั้งปวง
ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมีพระปรีชาสามารถล้ำเลิศ ทรงประสิทธิ์ประสาทวิชาการและความรู้แก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ เพื่อนำไปใช้เป็นประโยชน์ ในการแก้ไขปัญหาของประชาชนให้มีความอยู่ดีกินดี ทรงประดิษฐ์คิดค้นทฤษฎี และนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน หน่วยงานต่าง ๆ ระดับองค์การระหว่างประเทศ ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญา และรางวัลเป็นจำนวนมาก เช่น เมื่อพุทธศักราช 2549 องค์การสหประชาชาติได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ และนิตยสารไทม์เอเชียได้เทิดทูนพระเกียรติคุณให้ทรงเป็นหนึ่งในวีรบุรุษแห่งเอเชีย สาขาผู้เป็นแรงบันดาลใจ นับเป็นเกียรติอันสูงยิ่งแก่ประเทศและประชาชนชาวไทย
ในมหามงคลพุทธศักราช 2550 นี้ พสกนิกรชาวไทยยังได้รับทราบข่าวอันเป็นมงคล คือองค์กรด้านการประดิษฐ์ระดับนานาชาติ 2 องค์กร ได้แก่ องค์กรไอเอฟไอเอ (อินเตอร์เนชั่นแนล เฟดเดอเรชั่น ออฟ อินเวนชั่น แอสโซซิเอชั่น) แห่งสาธารณรัฐฮังการี และองค์กรเคไอพีเอ (โคเรีย อินเวนชั่น โพรโมชั่น แอสโซซิเอชั่น) แห่งสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลในฐานะ “พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย” อันเป็นรางวัลที่ทรงคุณค่าระดับโลก ยังความปลาบปลื้มปีติมาสู่พสกนิกรโดยถ้วนหน้า
เป็นที่ประจักษ์ทั้งในประเทศและนานาประเทศว่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก ทรงสถิตอยู่ในดวงใจของคนไทยทั้งชาติและทรงเป็นศูนย์รวมความรัก ความสามัคคีของพสกนิกรมาตลอดระยะเวลาอันยาวนานหลายทศวรรษ ในยามที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระประชวร พสกนิกรทุกหมู่เหล่าต่างมีความวิตกกังวลห่วงใย ดังปรากฏว่าประชาชนจากทั่วสารทิศได้เดินทางมาลงนามถวายพระพร มาพักค้างแรมเฝ้าฟังข่าวพระอาการประชวรที่โรงพยาบาลศิริราชอย่างใกล้ชิด แสดงถึงความผูกพันอย่างลึกซึ้งระหว่างราษฎรกับพระมหากษัตริย์ที่ไม่มีปรากฏให้เห็นในภูมิภาคอื่นของโลก และเมื่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงหายจากการทรงพระประชวร เสด็จพระราชดำเนินกลับสู่พระตำหนักจิตรลดา ประชาชนต่างปลาบปลื้มปีติโสมนัสโดยถ้วนหน้า
เนื่องในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา แห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ในพุทธศักราช 2550 นี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนำพสกนิกรทั่วพระราชอาณาจักรน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล โดยพร้อมเพรียงกัน ดังนี้
“ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอร่วมจิตสมานฉันท์พร้อมเพรียงกันน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล ตลอดจนพลานุภาพแห่งพระสยามเทวาธิราช และสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ ได้โปรดอภิบาลบันดาลดลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงพระเจริญพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ มีพระพลานามัยสมบูรณ์ ปราศจากโรคาพยาธิ และอุปัทวันตรายทั้งปวง ทรงสถิตเสถียรในมไหศูรย์สมบัติ เป็นฉัตรแก้วร่มเกล้าของปวงข้าพระพุทธเจ้าและเหล่าพสกนิกรชาวไทยตราบจิรัฐิติกาล เทอญ ” ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
จากนั้น วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสดุดีมหาราชา และเพลงพ่อแห่งแผ่นดิน โดยผู้เข้าร่วมพิธีได้เปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” อย่างพร้อมเพรียงกัน และมีการจุดพลุ ดอกไม้ไฟ เฉลิมพระเกียรติ สว่างไสวสวยงามตระการตาไปทั่วท้องฟ้า
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 20.09 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพันเอกหญิง ท่านผู้หญิงจิตรวดี จุลานนท์ เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โดยมี คณะรัฐมนตรี ข้าราชการทั้งตำรวจ ทหาร และพลเรือน นิสิต นักศึกษา พ่อค้า ประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมในพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรโดยพร้อมเพรียงกัน
นายวรวิทย์ วีรบวรพงศ์ ประธานคณะกรรมการจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา “5 ธันวามหาราช” กล่าวรายงานถึงความร่วมมือในการจัดงานฯ เสร็จแล้ว นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา “5 ธันวามหาราช” กล่าวรายงานสรุปว่า เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่งในวันนี้ ซึ่งเป็นวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยรัฐบาลได้มอบให้มูลนิธิ 5 ธันวามหาราช รับผิดชอบในการจัดงานถวายพระพร และจัดมหรสพสมโภช ในนามพสกนิกรชาวไทย เช่นที่เคยปฏิบัติทุกปีเสมอมา ดังนั้น มูลนิธิ 5 ธันวามหาราชจึงเป็นองค์กรหลักภาคประชาชนในการดำเนินงานร่วมกับข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร และประชาชนทุกสาขาอาชีพ ซึ่งทุกฝ่ายได้ร่วมกันทำงานด้วยความปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสแสดงความจงรักภักดี ด้วยความสำนึกและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น การจัดงานมีตั้งแต่วันที่ 1-9 ธันวาคม 2550 โดยมีงานพิธีการ กิจกรรม เฉลิมพระเกียรติต่าง ๆ อาทิ พิธีถวายพระพรชัยมงคลของศาสนาต่าง ๆ พิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพร โดยผู้นำศาสนาต่าง ๆ ในประเทศไทย มาร่วมกันถวายพระพร และที่สำคัญยิ่งคือพิธีถวายเครื่องราชสักการะจุดเทียนชัยถวายพระพร และถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ นอกจากนั้น มูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ร่วมกับกรุงเทพมหานคร โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และองค์กรต่าง ๆ ยังได้สนับสนุนการจุดเทียนชัยถวายพระพรของประชาชนตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินจากพระบรมมหาราชวังถึงพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน โดยมีการถ่ายทอดสดส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกให้ได้ชื่นชมอีกด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ถวายเครื่องราชสักการะ และถวายคำนับ นายกรัฐมนตรีจุดเทียนชัย กล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ และกล่าวนำถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ ดังนี้ “ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ที่มาชุมนุมพร้อมเพรียงกันอยู่ ณ มณฑลพิธีแห่งนี้และในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ มีความปลาบปลื้มปีติยินดีเป็นล้นพ้น ที่ได้มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในมหามงคลสมัยที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม ศกนี้
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายและพสกนิกรทั่วประเทศล้วนมีความปีติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงหายจากพระอาการประชวร และทรงคืนสู่พระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษานี้ ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ต่างชื่นชมโสมนัส พร้อมใจกันจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่และต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อแสดงความจงรักภักดีและความเทิดทูนในพระมหากรุณาธิคุณเหนือเศียรเกล้า ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงพระวิริยอุตสาหะบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ตลอดระยะเวลาอันยาวนานนับแต่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อพุทธศักราช 2489 ตราบจนปัจจุบัน
ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงอุทิศเวลาและทรงทุ่มเทกำลังพระวรกาย กำลังพระปัญญา ตลอดจนกำลังพระราชทรัพย์ และทรงฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคน้อยใหญ่ เพื่อสร้างสรรค์ความเจริญแก่ชาติบ้านเมืองโดยไม่เคยทรงย่อท้อ ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรทั่วทุกภูมิภาค แม้ในท้องถิ่นทุรกันดารห่างไกลหรือพื้นที่ที่มีอันตรายก็มิได้ทรงหวาดหวั่น ทรงมุ่งมั่นขจัดทุกข์ภัยแก่อาณาประชาราษฎร์ พร้อมทั้งได้พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเป็นจำนวนมากเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน ได้พระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้คนไทยดำรงชีวิตอย่างมีเหตุผล นำความผาสุกยั่งยืนมาสู่ตนเองและประเทศชาติ ทรงบูรณาการการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การบริหารจัดการด้านดิน น้ำ พืชพันธุ์ ธัญญาหาร และสิ่งแวดล้อม ประสบผลสำเร็จ เป็นคุณูปการอย่างยิ่งใหญ่แก่ราษฎรทั้งปวง
ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมีพระปรีชาสามารถล้ำเลิศ ทรงประสิทธิ์ประสาทวิชาการและความรู้แก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ เพื่อนำไปใช้เป็นประโยชน์ ในการแก้ไขปัญหาของประชาชนให้มีความอยู่ดีกินดี ทรงประดิษฐ์คิดค้นทฤษฎี และนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน หน่วยงานต่าง ๆ ระดับองค์การระหว่างประเทศ ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญา และรางวัลเป็นจำนวนมาก เช่น เมื่อพุทธศักราช 2549 องค์การสหประชาชาติได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ และนิตยสารไทม์เอเชียได้เทิดทูนพระเกียรติคุณให้ทรงเป็นหนึ่งในวีรบุรุษแห่งเอเชีย สาขาผู้เป็นแรงบันดาลใจ นับเป็นเกียรติอันสูงยิ่งแก่ประเทศและประชาชนชาวไทย
ในมหามงคลพุทธศักราช 2550 นี้ พสกนิกรชาวไทยยังได้รับทราบข่าวอันเป็นมงคล คือองค์กรด้านการประดิษฐ์ระดับนานาชาติ 2 องค์กร ได้แก่ องค์กรไอเอฟไอเอ (อินเตอร์เนชั่นแนล เฟดเดอเรชั่น ออฟ อินเวนชั่น แอสโซซิเอชั่น) แห่งสาธารณรัฐฮังการี และองค์กรเคไอพีเอ (โคเรีย อินเวนชั่น โพรโมชั่น แอสโซซิเอชั่น) แห่งสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลในฐานะ “พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย” อันเป็นรางวัลที่ทรงคุณค่าระดับโลก ยังความปลาบปลื้มปีติมาสู่พสกนิกรโดยถ้วนหน้า
เป็นที่ประจักษ์ทั้งในประเทศและนานาประเทศว่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก ทรงสถิตอยู่ในดวงใจของคนไทยทั้งชาติและทรงเป็นศูนย์รวมความรัก ความสามัคคีของพสกนิกรมาตลอดระยะเวลาอันยาวนานหลายทศวรรษ ในยามที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระประชวร พสกนิกรทุกหมู่เหล่าต่างมีความวิตกกังวลห่วงใย ดังปรากฏว่าประชาชนจากทั่วสารทิศได้เดินทางมาลงนามถวายพระพร มาพักค้างแรมเฝ้าฟังข่าวพระอาการประชวรที่โรงพยาบาลศิริราชอย่างใกล้ชิด แสดงถึงความผูกพันอย่างลึกซึ้งระหว่างราษฎรกับพระมหากษัตริย์ที่ไม่มีปรากฏให้เห็นในภูมิภาคอื่นของโลก และเมื่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงหายจากการทรงพระประชวร เสด็จพระราชดำเนินกลับสู่พระตำหนักจิตรลดา ประชาชนต่างปลาบปลื้มปีติโสมนัสโดยถ้วนหน้า
เนื่องในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา แห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ในพุทธศักราช 2550 นี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนำพสกนิกรทั่วพระราชอาณาจักรน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล โดยพร้อมเพรียงกัน ดังนี้
“ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอร่วมจิตสมานฉันท์พร้อมเพรียงกันน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล ตลอดจนพลานุภาพแห่งพระสยามเทวาธิราช และสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ ได้โปรดอภิบาลบันดาลดลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงพระเจริญพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ มีพระพลานามัยสมบูรณ์ ปราศจากโรคาพยาธิ และอุปัทวันตรายทั้งปวง ทรงสถิตเสถียรในมไหศูรย์สมบัติ เป็นฉัตรแก้วร่มเกล้าของปวงข้าพระพุทธเจ้าและเหล่าพสกนิกรชาวไทยตราบจิรัฐิติกาล เทอญ ” ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
จากนั้น วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสดุดีมหาราชา และเพลงพ่อแห่งแผ่นดิน โดยผู้เข้าร่วมพิธีได้เปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” อย่างพร้อมเพรียงกัน และมีการจุดพลุ ดอกไม้ไฟ เฉลิมพระเกียรติ สว่างไสวสวยงามตระการตาไปทั่วท้องฟ้า
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--