วันนี้ (27 มิถุนายน 2561) เวลา 14.00 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงปัญหารถไฟฟ้า บีทีเอสขัดข้องอย่างต่อเนื่องว่า มีความกังวลต่อปัญหาดังกล่าว ตั้งแต่ได้ทราบข่าวนี้ ระหว่างที่อยู่ต่างประเทศ กรณีของรถไฟฟ้าบีทีเอสมีปัญหามาตลอด เพราะใช้งานมานาน สำหรับปัญหาที่ระบบอาณัติสัญญาณนั้น เขาได้ประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มาแก้ไข รวมถึงการพิจารณาว่าอาจต้องปรับแบนด์วิชท์คลื่นความถี่หรือไม่ เพราะมีการให้เช่าช่วงแบนด์วิชท์คลื่นความถี่ต่าง ๆ โดยตอนนี้มีผู้ใช้แบนด์วิชท์คลื่นความถี่ 2300 เมกกะเฮิร์ตซึ่งมันอาจใกล้กับคลื่นความถี่ของบีทีเอส ทั้งนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังแก้ปัญหาอยู่ โดยเข้าใจถึงความเดือดร้อนลำบากของประชาชนคนไทย ไม่ว่าทุกเรื่องที่เป็นความเดือดร้อน รัฐบาลก็เป็นทุกข์เช่นกัน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือเราต้องเร่งรัดการพัฒนาในเรื่องระบบต่าง ๆ และโครงสร้างพื้นฐานของเรา รวมถึงการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมต่าง ๆ ขึ้นมาให้ได้ โดยในการให้ต่างประเทศมาร่วมลงทุนในโครงการเหล่านี้ จะต้องกำหนดไว้ในการให้สิทธิประโยชน์ในการลงทุนหรือในทีโออาร์ว่าต้องมีการถ่ายทอดเทคโนโลยี มีการตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา หรือจะมีแผนการดูแลประชาชนและสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง
“ผมเดินทางไปที่อังกฤษและฝรั่งเศสก็มีปัญหาเช่นกัน มีการหยุดงานประท้วง แต่การประท้วงของเขานั้น เป็นไปในลักษณะที่รถไฟเคยวิ่ง 10 ขบวนก็เหลือแค่ 8 ขบวน ไม่ประท้วงหมด เขาไม่ทำอะไรให้เกิดความเดือดร้อนมาก ซึ่งประชาชนก็ต้องยอมรับ เพราะเป็นเรื่องของประชาธิปไตย แต่ไม่ใช่ประท้วงทุกอย่าง จนเหมือนทุกอย่างล้มเหลว อย่างไรก็ตาม เราจะต้องเร่งรัดการพัฒนา และการลงทุนกับต่างชาตินับจากนี้ จะต้องมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ไทย ตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาดูแลประชาชนแลสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่จะให้สิทธิประโยชน์เพียงอย่างเดียว เราจำเป็นต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อความไร้รอยต่อ ซึ่งทุกประเทศยินดีที่จะสร้างงาน สร้างอาชีพ รับคนไทยเข้าทำงานในบริษัท” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ที่มา: http://www.thaigov.go.th