วันนี้ (28 มิถุนายน 2561) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการแก้ไขปัญหาผักตบชวา ครั้งที่ 1/2561 สรุปสาระสำคัญดังนี้
ที่ประชุมรับทราบ มาตรการเสริมสร้างความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาผักตบชวาแบบยั่งยืน การจัดสรรเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ให้กับชุมชน รวมทั้งรับทราบการจัดตั้ง “ชมรมคนริมน้ำ” โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ชุมชนได้เฝ้าระวัง และดูแลมิให้เกิดปัญหาการสะสมของผักตบชวา พร้อมมีส่วนร่วมในการกำจัดผักตบชวา ซึ่งปัจุบันมีการจัดตั้งชมรมคนริมน้ำไปแล้ว จำนวน 7,567 ชมรม มีสมาชิกชมรมคนริมน้ำ จำนวน 1,413,979 คน ตลอดจนรับทราบมาตรการดำเนินการในแหล่งน้ำเปิดและแหล่งน้ำปิด ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีผลงานการกำจัดผักตบชวาแล้ว รวมทั้งสิ้น 3,511,162 ตัน (ข้อมูล ณ วันที่ 19 มิถุนายน 2561)
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมรับทราบการจัดทำ Web Application เพื่อติดตามการดำเนินการกำจัดผักตบชวาในแหล่งน้ำปิด ดังนี้ 1. แสดงข้อมูลตำแหน่ง และปริมาณผักตบชวาในแหล่งน้ำปิด 2. สามารถใช้ตรวจสอบผลการกำจัดผักตบชวา 3. สามารถใช้เพื่อวางแผนการกำจัดผักตบชวา ในแต่ละแหล่งน้ำได้อย่างเป็นระบบ 4. สามารถใช้เป็นระบบนำทางไปยังแหล่งน้ำดังกล่าวได้ และ 5. สามารถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์อย่างมีคุณภาพ
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบในหลักการ โครงการจัดตั้งโรงงานต้นแบบกำจัดผักตบชวาด้วยนวัตกรรมการแปรรูป ของกองบัญชาการกองทัพไทย จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ จ.ฉะเชิงเทรา จ.นครพนมจ.พิษณุโลก จ.พัทลุง และจ.ศรีสะเกษ ซึ่งจะสามารถกำจัดผักตบชวาได้ปีละ 17,000 ตัน โดยการนำไปแปรรูป อาทิ ปุ๋ยอินทรีย์ ดินเพาะปลูก อิฐดินประสาน แผ่นพื้นทางเดินเท้า ฝ้าเพดานซับเสียง ถ่านดูดกลิ่น วัสดุบุผนัง 3 มิติ เฟอร์นิเจอร์ เชื้อเพลิงชีวมวล และถ่านอัดแท่งเป็นต้น
ในตอนท้ายของการประชุม ประธานได้กล่าวขอบคุณคณะกรรมการฯ ที่ได้ร่วมกันนำเสนอข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนภารกิจการแก้ไขปัญหาผักตบชวา ซึ่งนับเป็นภารกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพื่อความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ ขอให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาผักตบชวาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ Web Application จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการปฏิบัติงานให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและคล่องตัว ตลอดจนชมรมคนริมน้ำ ก็นับเป็นองค์กรภาคประชาสังคมที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลรักษาแหล่งน้ำในชุมชนของตนเอง รวมทั้งการมีเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ของภาครัฐก็มีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหานี้ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
นอกจากนี้ การศึกษาและนำเอกสารจุลินทรีย์หรือพืชสมุนไพรมาใช้กำจัดผักตบชวาก็ขอให้กรมวิชาการเกษตรดำเนินการตามข้อกฏหมาย ทั้งเรื่องของการจดทะเบียนและการศึกษาวิจัยที่ไม่ให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักวิชาการและกฎระเบียบให้ถูกต้องโดยเร็ว
พร้อมกันนี้ ในส่วนของโครงการจัดตั้งโรงงงานต้นแบบเพื่อกำจัดผักตบชวาด้วยนวัตกรรมการแปรรูปของกองบัญชาการกองทัพไทยเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของชุมชนนั้น ขอให้กองบัญชาการกองทัพไทยเร่งดำเนินการ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาผักตบชวาเกิดผลสัมฤทธิ์สนองตอบนโยบายของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
........................................................................................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th