วันนี้ (29 มิ.ย. 61) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2561 ซึ่งสรุปสาระสำคัญดังนี้
ที่ประชุมรับทราบ รายงานการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการระบบรถไฟทางคู่เพื่อการขนส่งและการจัดการโลจิสติกส์ (ระยะเร่งด่วน ช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น) ด้วยการปรับรูปแบบโครงสร้างทางรถไฟยกระดับสถานีบ้านไผ่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
นอกจากนี้ที่ประชุมรับทราบ รายงานการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ส่วนต่อขยายพหลโยธิน (หมอชิต-สะพานใหม่-ลำลูกกา) ของกรุงเทพมหานคร (ปัจจุบัน รฟม. เป็นผู้ดำเนินการ) ด้วยการก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามแยกเสนานิคม
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมรับทราบ รายงานการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ส่วนต่อขยายพหลโยธิน (หมอชิต-สะพานใหม่-ลำลูกกา) ของกรุงเทพมหานคร เฉพาะช่วงสะพานใหม่-ลำลูกกา (ปัจจุบัน รฟม. เป็นผู้ดำเนินการ) ด้วยการยกเลิกการติดตั้งแผงบังสายตาบริเวณพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ
จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบ โครงการก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำ 115 เควี เพื่อทดแทนและเพิ่มความสามารถในการจ่ายไฟไปยังเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยมีมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น ดังนี้ 1) ด้านอากาศและเสียง 2) การฟุ้งกระจายของตะกอนในทะเล 3) การวางสายเคเบิลใต้น้ำ 4) แจ้งข่าวสารและระยะเวลาก่อสร้าง ให้ชาวประมง ประชาชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทราบ และ 5) ให้ผู้แทนชุมชนเข้าตรวจสอบการก่อสร้าง กรณีที่ประชาชนมีข้อสงสัย เพื่อเน้นการมีส่วนร่วมพร้อมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล
พร้อมทั้ง ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบ โครงการรถไฟสายสีน้ำเงิน ช่วงบางแค-พุทธมณฑล สาย 4 ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดยให้ รฟม. ดำเนินการ ดังนี้ 1) ดำเนินการตามมาตรการฯ ที่กำหนดไว้ในรายงาน EIA ซึ่งผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ ด้านโครงสร้างพื้นฐานทางบกและอากาศ ในการประชุมครั้งที่ 36/59 เมื่อ 25 พ.ย. 59 อย่างเคร่งครัด 2) ให้ตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินการตามมาตรการฯ ตามที่กำหนดไว้ และ 3) นำเสนอ ครม. เพื่อประกอบการพิจารณาตาม ม. 47 แห่ง พ.ร.บ. สิ่งแวดล้อม 2535 ต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับมาตรการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ และเศษพลาสติกนำเข้าจากต่างประเทศ โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อห้ามมิให้มีการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาในประเทศไทยอีก เพื่อรักษาคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนโดยรวมต่อไป
........................................................................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th