วันนี้ (25 กรกฎาคม 2561) เวลา 13.30 น. นางซานา ฮะมัด อะลาวัด กูราฟี (H.E. Mrs. Sanaa Hamad Alawad Gourafi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐซูดานประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐซูดานฯ ในนามของรัฐบาลไทย และแสดงความยินดีที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐซูดานประจำประเทศไทยคนแรก หลังจากที่รัฐบาลซูดานได้พิจารณาเปิดสถานเอกอัครราชทูตในประเทศไทย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 หวังว่าเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐซูดานฯ จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยกับซูดานให้มากยิ่งขึ้น โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมซูดานที่สามารถสร้างสันติสุขและฟื้นฟูประเทศจนกลายเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในหลาย ๆ ด้าน หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันมากขึ้นทั้งในมิติการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การทำเหมืองแร่ เกษตรกรรม การทำประมง และสาธารณสุข เป็นต้น เพื่อสร้างผลประโยชน์ให้เพิ่มขึ้นทั้งสองประเทศ
เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐซูดานฯ กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยและประชาชนที่ต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมชื่นชมไทยที่เป็นมิตรประเทศซึ่งเป็นต้นแบบของความสำเร็จในการพัฒนาประเทศและมีความเชี่ยวชาญในสาขาที่ซูดานต้องการ อาทิ ด้านการสาธารณสุข การทำเหมืองแร่ และการท่องเที่ยว รวมทั้งต้องการเรียนรู้ด้านการเกษตร การทำปศุสัตว์ และอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารจากไทย เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้แก่ประชาชนของซูดาน ด้านนายกรัฐมนตรียินดีสนับสนุนความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในด้านที่ซูดานสนใจ โดยทั้งสองฝ่ายสามารถเป็นประตูเชื่อมโยงไปสู่ภูมิภาคของกันและกัน โดยไทยสามารถเป็นประตูเชื่อมโยงไปสู่อาเซียนให้แก่ซูดานได้และและไทยสามารถใช้ซูดานเป็นสะพานเชื่อมทางเศรษฐกิจการค้ากับภูมิภาคแอฟริกาและตะวันออกกลางได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องความร่วมมือของซูดานในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐซูดานฯ เดินทางเยือนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว จึงหวังว่าเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐซูดานฯ จะเห็นถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของรัฐบาล ซึ่งเน้นการส่งเสริมการพัฒนา เพื่อยกระดับสภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ด้านเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐซูดานฯ ชื่นชมรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเน้นการส่งเสริมการพัฒนาในพื้นที่ หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านดังกล่าวมากยิ่งขึ้น เพื่อนำไปปรับใช้กับพื้นที่ห่างไกลของซูดานให้พัฒนาอย่างยั่งยืน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th