วันนี้ (7 ส.ค.61) เวลา 13.10 น. ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีการหารือหลายเรื่อง เช่น การบริหารจัดการน้ำ และการเตรียมการปลดล็อคในเรื่องต่างๆ เพื่อร่วมกันพิจารณาหาแนวทางและมาตรการในการดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป
สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรีนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับทราบรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำดังกล่าว จากรองนายกรัฐมนตรี (พลเอกฉัตรชัย สาริกัลป์ยะ) ซึ่งได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำเมื่อวานนี้แล้ว รวมถึงรับทราบเกี่ยวกับการเตรียมการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมชลประทาน กระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งขอชื่นชมการเตรียมของผู้ว่าฯ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมกันดำเนินการเป็นอย่างดี โดยพรุ่งนี้นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อดูว่าแผนการที่เตรียมการรองรับสถานการณ์ครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ โดยเฉพาะการตรวจเยี่ยมในส่วนของกรมป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนซึ่งต้องบูรณาการทำงานร่วมกับฝ่ายทหาร เพื่อเตรียมมาตรการรองรับในกรณีที่ปริมาณน้ำมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยวันนี้ระดับน้ำเริ่มลดลงเพราะมีการทยอยระบายน้ำออกมากขึ้น ซึ่งหวังว่าสถานการณ์ทางธรรมชาติจะดีขึ้น
อย่างไรก็ตามการระบายน้ำออกดังกล่าวจะต้องมีการพิจารณาถึงความแข็งแรงและความสามารถในการรองรับของเขื่อน รวมทั้งพิจารณาถึงบริเวณท้ายเขื่อนที่อาจจะได้รับผลกระทบ เพื่อจะได้หาแนวทางและมีมาตรการรองรับที่เหมาะสมหรือเตรียมการในส่วนของภาคประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะหลายพื้นที่อาจต้องมีการเตรียมแผนการอพยพประชาชนให้ไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำว่า สิ่งสำคัญขอให้ประชาชนทุกคนเฝ้าติดตามสถานการณ์ฝนและการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ตลอดจนสถานการณ์น้ำในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อทุกคนจะได้เตรียมการรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีและปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะบ้านเรือนหรือประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่มีการระบายน้ำออกมาต้องเตรียมการเก็บหรือยกสิ่งของต่าง ๆ ขึ้นไว้บนที่สูง และเตรียมอพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย หากปริมาณน้ำในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ซึ่งยังมีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากนั้น หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องก็ได้มีการเร่งระบายน้ำและตัดตอนน้ำออกไปยังอย่างต่อเนื่องเพื่อลดระดับน้ำที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนในในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายนายกรัฐมนตรีที่ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการขุดขยายทางน้ำธรรมชาติเพื่อช่วยในการเก็บกับน้ำและระบายน้ำในช่วงที่มีสถานการณ์จำเป็น โดยให้มีการชดเชยเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบในการเสียสละพื้นที่เป็นพื้นที่รองรับน้ำอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมด้วย รวมไปถึงการเตรียมสนับสนุนอาชีพเสริมในเรื่องของการทำประมงพื้นบ้านเช่นเดียวกับที่ได้เคยดำเนินการในพื้นที่อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งประชาชนในพื้นที่ต่างก็มีความพอใจในการที่รัฐบาลเข้าไปดูแลสนับสนุนในเรื่องดังกล่าว เพราะทำให้มีอาชีพเสริมและสร้างรายได้อีกทางหนึ่งในระหว่างที่ยังไม่สามารถเพาะปลูกหรือทำนาได้ ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของธรรมชาติ และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ทำอย่างไรจะให้เสียหายน้อยที่สุด ซึ่งตรงนี้รัฐบาลได้มีการดูแลครอบคลุมในทุกมิติ
-------------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th