วันนี้ (8 สิงหาคม 2561) เวลา 11.00 น. นาย โจนาธาน ที ฟรายด์ (Mr. Jonathan T. Fried) ผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรีแคนาดาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล) ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบกับนาย โจนาธาน ที ฟรายด์ ผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรีแคนาดาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ พร้อมชี้แจ้งให้ทราบว่าไทยพิจารณาจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกที่ครอบคลุมและก้าวหน้า (CPTPP) ผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรีแคนาดาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศแสดงความยินดีที่ไทยจะเข้าร่วมการเป็นสมาชิก CPTPP ด้วย
ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นสำคัญเพื่อประโยชน์ในการกระชับความร่วมมือระหว่างกันทางด้านการค้า และการลงทุน ด้วยศักยภาพของทั้งไทยและแคนาดาเชื่อว่าความร่วมมือกันจะส่งผลให้เพิ่มพูนความเจริญรุ่งเรือง โดยนายโจนาธานฯ ขอให้รัฐบาลไทยคำนึงถึงแคนาดาอย่างเป็นมิตร และยินดีด้วยที่จะร่วมมือทางเศรษฐกิจ แคนาดายินดีที่จะเป็นประตูให้ไทยสู่ตลาดยุโรป และสหรัฐฯ และชื่นชมรัฐบาลไทยต่อการดำเนินนโยบายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะสามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำทะเลจีนใต้ และทะเลอันดามัน และไม่ไกลจากประเทศใหญ่ เช่น จีนและอินเดีย จึงทำให้ประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นหนึ่งในตัวเลือกปลายทางของการลงทุนที่ดีที่สุด รวมทั้งรัฐบาลยังมีนโยบายส่งเสริมตลาดไทยให้เปิดกว้างอย่างเสรีและสร้างสภาพแวดล้อมอย่างเป็นมิตรกับนักลงทุนด้วย
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารัฐบาลไทยได้ริเริ่มนโยบายด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย คือโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งมีความคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ได้มีการดำเนินการในส่วนต่างๆ เพื่อรองรับ และสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศ โดยมีภาคเอกชนจากหลายประเทศแสดงความสนใจและยืนยันที่จะร่วมลงทุนในภายใต้โครงการ EEC ด้วยแล้ว ซึ่งเชื่อว่า ในอนาคตประเทศไทยจะมีพัฒนาที่ก้าวหน้าอย่างโดดเด่น เนื่องจากเอกชนที่ยืนยันจะเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก และจากความสำเร็จที่ได้มีการดำเนินการแล้ว อาทิ การเปิดสนามบินอู่ตะเภา การเปิดศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (Maintenance Repair and Overhaul: MRO) รถไฟความเร็วสูงเชื่อมการเดินทางสามสนามบิน และรถไฟรางคู่ รวมไปถึงไทยจะเป็นศูนย์อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิเอเชียอีกด้วย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th