นายกรัฐมนตรีขอให้ กทม.ช่วยรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ และเตรียมหารือกับคมช. เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม
วันนี้ ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังมอบนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และข้าราชการระดับสูงของ กทม. วันนี้ ว่า ได้สั่งการให้ กทม. เตรียมจัดการเลือกตั้ง ในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ โดยเฉพาะการช่วยรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มากขึ้น และเตรียมการรองรับผู้ใช้สิทธินอกสถานที่
นายกรัฐมนตรียังได้ข้อซักถามเกี่ยวกับกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.) ออกมาเปิดเผยเอกสารลับ โดยระบุว่า เป็นแผนการสกัดกั้น พปช.ในการเลือกตั้งวันที่ 23 ธันวาคมนี้ ว่า ได้รับข้อมูลเหล่านี้แล้ว แต่ในเอกสารไม่มีการพูดถึงการดำเนินการใด ๆ ที่จะทำให้ใช้ความรุนแรงหรือใช้วิธีการอื่นใดที่นอกเหนือไปจากการดำเนินการตามปกติ ซึ่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาล จะมีการหารือกันอีกครั้ง ในการทำงานร่วมกัน เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปในลักษณะที่โปร่งใสและเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า คมช.ได้รายงานว่า เอกสารดังกล่าวเป็นของ คมช.จริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เอกสารที่ได้รับเป็นการถ่ายสำเนา และมีการลงชื่อ แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบว่า เป็นเอกสารของ คมช.หรือไม่ ซึ่งได้อ่านข้อความในเอกสารเหล่านั้น ก็ไม่ได้มีการระบุถึงการใช้ความรุนแรงอะไร เป็นเรื่องที่พูดโดยรวมว่าเป็นแนวคิดของ คมช.ในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่เกิดขึ้นจะทำให้การเลือกตั้งมีความเป็นธรรมและเป็นกลางหรือไม่ ถ้ามีการสกัดกั้นไม่ให้พรรคใดพรรคหนึ่งสามารถกลับเข้ามาได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะหารือกันในส่วนเหล่านี้ว่า สิ่งที่เราจะพยายามทำคือ การสนับสนุนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการที่จะทำให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม
ส่วนที่ว่าจำเป็นต้องสกัดกั้นพรรคพลังประชาชนหรือไม่ เพราะไม่ต้องการให้มีการสืบทอดอำนาจจากพรรคไทยรักไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนนี้ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าจะเลือกใคร ต่อข้อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะทำให้ถูกมองว่า มีการใช้กองทัพมาเป็นกลไกในการสกัดกั้นพรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ชี้แจงค่อนข้างชัดเจนแล้ว และจะหารือกับพลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ และรักษาการประธาน คมช.อีกครั้ง
“เอกสารที่ออกมา ไม่ได้มีอะไรที่เป็นเรื่องที่ถือว่าเป็นการไปกดดัน หรือลิดรอนอะไร แต่เป็นแนวคิดตั้งแต่ต้นปี ซึ่งดูแล้วก็ไม่มีอะไรใหม่ ในส่วนของ คมช. ก็ไม่ได้มีอะไรใหม่ เพียงแต่ช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง คงจะขอหารือ และขอให้การดำเนินการของ คมช. สนับสนุนและสอดคล้องกับการทำงานของรัฐบาลที่สนับสนุนการเลือกตั้ง ให้มีความโปร่งใสและเป็นธรรม ตามแนวทางที่ กกต. ตั้งใจไว้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ต่อข้อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นเงื่อนไขให้พรรคพลังประชาชนออกมาต่อรองกับรัฐบาล หรือ กกต.หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นคงไม่เกิดความสับสนอะไร และคนที่จะเป็นผู้ตัดสินคนสุดท้าย คือ ประชาชน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังมอบนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และข้าราชการระดับสูงของ กทม. วันนี้ ว่า ได้สั่งการให้ กทม. เตรียมจัดการเลือกตั้ง ในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ โดยเฉพาะการช่วยรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มากขึ้น และเตรียมการรองรับผู้ใช้สิทธินอกสถานที่
นายกรัฐมนตรียังได้ข้อซักถามเกี่ยวกับกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.) ออกมาเปิดเผยเอกสารลับ โดยระบุว่า เป็นแผนการสกัดกั้น พปช.ในการเลือกตั้งวันที่ 23 ธันวาคมนี้ ว่า ได้รับข้อมูลเหล่านี้แล้ว แต่ในเอกสารไม่มีการพูดถึงการดำเนินการใด ๆ ที่จะทำให้ใช้ความรุนแรงหรือใช้วิธีการอื่นใดที่นอกเหนือไปจากการดำเนินการตามปกติ ซึ่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาล จะมีการหารือกันอีกครั้ง ในการทำงานร่วมกัน เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปในลักษณะที่โปร่งใสและเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า คมช.ได้รายงานว่า เอกสารดังกล่าวเป็นของ คมช.จริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เอกสารที่ได้รับเป็นการถ่ายสำเนา และมีการลงชื่อ แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบว่า เป็นเอกสารของ คมช.หรือไม่ ซึ่งได้อ่านข้อความในเอกสารเหล่านั้น ก็ไม่ได้มีการระบุถึงการใช้ความรุนแรงอะไร เป็นเรื่องที่พูดโดยรวมว่าเป็นแนวคิดของ คมช.ในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่เกิดขึ้นจะทำให้การเลือกตั้งมีความเป็นธรรมและเป็นกลางหรือไม่ ถ้ามีการสกัดกั้นไม่ให้พรรคใดพรรคหนึ่งสามารถกลับเข้ามาได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะหารือกันในส่วนเหล่านี้ว่า สิ่งที่เราจะพยายามทำคือ การสนับสนุนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการที่จะทำให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม
ส่วนที่ว่าจำเป็นต้องสกัดกั้นพรรคพลังประชาชนหรือไม่ เพราะไม่ต้องการให้มีการสืบทอดอำนาจจากพรรคไทยรักไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนนี้ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าจะเลือกใคร ต่อข้อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะทำให้ถูกมองว่า มีการใช้กองทัพมาเป็นกลไกในการสกัดกั้นพรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ชี้แจงค่อนข้างชัดเจนแล้ว และจะหารือกับพลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ และรักษาการประธาน คมช.อีกครั้ง
“เอกสารที่ออกมา ไม่ได้มีอะไรที่เป็นเรื่องที่ถือว่าเป็นการไปกดดัน หรือลิดรอนอะไร แต่เป็นแนวคิดตั้งแต่ต้นปี ซึ่งดูแล้วก็ไม่มีอะไรใหม่ ในส่วนของ คมช. ก็ไม่ได้มีอะไรใหม่ เพียงแต่ช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง คงจะขอหารือ และขอให้การดำเนินการของ คมช. สนับสนุนและสอดคล้องกับการทำงานของรัฐบาลที่สนับสนุนการเลือกตั้ง ให้มีความโปร่งใสและเป็นธรรม ตามแนวทางที่ กกต. ตั้งใจไว้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ต่อข้อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นเงื่อนไขให้พรรคพลังประชาชนออกมาต่อรองกับรัฐบาล หรือ กกต.หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นคงไม่เกิดความสับสนอะไร และคนที่จะเป็นผู้ตัดสินคนสุดท้าย คือ ประชาชน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--