นายกรัฐมนตรีระบุให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหน่วยงานหลักในการจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา เพื่อให้ประชาชนออกมารวมพลังร่วมกันถวายพระพร พร้อมทั้งรณรงค์ให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใสเป็นธรรม
วันนี้ เวลา 08.00 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายบัญญัติ จันทน์เสนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 อาคารใหม่ ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานลำปาง จังหวัดลำปาง และขึ้นเฮลิคอปเตอร์ต่อไปยังศูนย์ศิลปาชีพแม่ต่ำ อำเภอเสริมงาม เพื่อพบปะประชาชน และรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานในโครงการพัฒนาบ้านแม่ต่ำ พร้อมทั้งเยี่ยมชมการทำงานโรงงานแกะสลัก การทอผ้าและโรงงานเซรามิค
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาการเตรียมการเพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง ประจำปี 2550 รุ่นที่ 3 ณ โรงแรมลำปางเวียงทอง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ และประธานชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านระดับจังหวัด และระดับอำเภอ ของ 8 จังหวัด ภาคเหนือตอนบน กว่า 700 คน เข้าร่วมประชุม
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงเรื่องสำคัญเกี่ยวกับการจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งขอให้ทุกภาคส่วนรวมถึงประชาชนทุกหมู่เหล่ารวมพลังกันให้มากที่สุด และเข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล นอกจากนี้ ยังได้ขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันรณรงค์การเลือกตั้งเพื่อให้เป็นไปอย่างโปร่งใสเป็นธรรม และร่วมกันพัฒนาการเมืองของประเทศโดยการต่อต้านการซื้อสิทธิขายเสียง เลือกคนดีมีคุณภาพเข้ามาบริหารประเทศ พร้อมทั้งเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ 70 เปอร์เซ็นต์ และขอให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลาง
จากนั้นในตอนบ่ายนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาการเตรียมการเพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง ประจำปี 2550 รุ่นที่ 4 ณ โรงแรมท็อปแลนด์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ และประธานชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านระดับจังหวัด และระดับอำเภอ ของ 8 จังหวัด ภาคเหนือตอนล่าง จำนวน 734 คน เข้าร่วมประชุม
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปีนี้ถือเป็นปีที่มีวาระสำคัญอีกวาระหนึ่งตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมจนถึงประมาณวันที่ 9 ธันวาคม 2550 ซึ่งเป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะมีพิธีสำคัญสำหรับคนไทยทุกคน และวันนี้สิ่งที่ประชาชนทุกคนต่างรอคอยคือการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินกลับพระตำหนักว่าจะเป็นเมื่อไร เป็นสิ่งที่คนไทยอยากเห็น ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีโอกาสได้เข้าไปรับฟังพระอาการเกือบทุกวัน ถือว่าพระอาการดีขึ้นอย่างมาก และพระราชพิธีที่กำหนดไว้แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของพระบรมราชวินิจฉัย มีพระราชพิธีเดียวคือพระราชพิธีทอดพระกฐินทางชลมารควันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ว่าจะเสด็จฯ หรือไม่ ถือว่าเป็นปีมหามงคล จึงอยากจะขอเชิญชวนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหน่วยงานหลักในการทำหน้าที่จัดงาน โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการถวายพระพรอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ในช่วงเช้าของวันที่ 5 ธันวาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ซึ่งรัฐบาลได้จัดพื้นที่บริเวณท้องสนามหลวง ถนนราชดำเนิน และถนนตลอดเส้นทางที่รถยนต์พระที่นั่งจะเคลื่อนผ่านไปยังพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เพื่อให้ประชาชนได้เฝ้าฯ รับเสด็จ และในปีนี้จะมีการถ่ายทอดสดพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรตลอดงาน เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมกันถวายพระพรอย่างพร้อมเพรียงกัน และสิ่งที่เปลี่ยนแปลงจากปีที่ผ่านมาคือนอกจากจะร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชาแล้ว เราจะร่วมกันร้องเพลงพ่อแห่งแผ่นดิน เพื่อเป็นการถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเชื่อว่าคงจะไม่มีประเทศไหนในโลกที่ประชาชนจะใส่เสื้อเหลืองมากเท่าประเทศเรา
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการเตรียมการเลือกตั้งว่า ขณะนี้พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปได้มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถือว่าเป็นหน่วยงานหลักในการเลือกตั้ง ที่จะทำให้การเลือกตั้งเกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรมตามกฎหมาย ส่วนหน่วยงานอื่นถือว่าเป็นหน่วยงานที่จะต้องทำหน้าที่สนับสนุน ที่ถือว่าเป็นหน้าที่หลัก และเป็นส่วนจำเป็นของบ้านเมือง เพราะการเลือกตั้งไม่ว่าระดับใดก็ตาม ถือเป็นการแสดงออกทางด้านประชาธิปไตย และกำหนดทิศทางของประเทศ ดังนั้น จึงขอให้ข้าราชการทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายและวางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด เป็นข้าราชการที่ดี ไม่เข้าข้างใดข้างหนึ่ง หากมีหน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งก็ต้องอยู่ในการดูแลของ กกต. ตามมติของ กกต. สำหรับตำรวจและทหารที่มีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย คงได้มีการประสานงานกันโดยตรงกับ กกต.ในการดูแลไม่ให้มีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และทหารยังมีส่วนร่วมในการดูแลพื้นที่ที่ห่างไกลและเป็นแนวชายแดน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นวาระสำคัญอีกวาระหนึ่งที่เราจะต้องเอาบทเรียนที่มีปัญหามาตลอด มาแก้ไขในสิ่งเหล่านี้เพื่อให้ทุกอย่างเกิดความเรียบร้อย อย่างประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศมีความมั่นคงทางการเมืองค่อนข้างสูง ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจของเขาจะสู้ประเทศไทยไม่ได้ แต่ความมั่นคงทางการเมืองทำให้มีการพัฒนา อย่างที่หลายคนพูดว่าบางประเทศจะแซงหน้าเราแล้ว หรือจะหายใจลดต้นคอ เมื่อมีจุดอ่อนเราก็ต้องแก้ไข ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองก็จะลุ่ม ๆ ดอน ๆ และถูกประเทศเพื่อนบ้านแซงหน้าไปได้ อย่างประเทศเพื่อนบ้านทางฝั่งตะวันตกที่คนมองว่าใช้อำนาจทหารปกครอง อาจจะแซงหน้าเราได้หากเราไม่ปรับปรุง พัฒนา ในเมื่อเราผ่านช่วงเวลาวิกฤตมาแล้ว ก็ควรใช้เวลานั้นมาแก้ไขในสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้กลับมาอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง
ดังนั้น ในการเลือกตั้งครั้งนี้จึงอยากให้ประชาชนออกมามีส่วนร่วม โดยการใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งให้มากที่สุด อย่างที่เคยตั้งเป้าหมายไว้ 70 เปอร์เซ็นต์ ถ้าทำได้มากกว่านั้นก็จะเป็นเรื่องดี และจะทำให้ประชาชนได้รัฐบาลที่มาจากการตัดสินใจของประชาชนอย่างแท้จริง จะทำให้เราภาคภูมิใจในการเลือกผู้มาบริหารประเทศ นอกจากนั้น จะต้องทำหน้าที่ศึกษากฎหมายเลือกตั้ง รวมทั้งการให้รางวัลการแจ้งเบาะแสนำจับในเรื่องการทุจริตกับประชาชน และทำให้ประชาชนมามีส่วนร่วมให้มากที่สุด
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อยู่เย็นเป็นสุข ที่บ้านบางกระน้อย หมู่ที่ 2 ตำบลนครป่าหมาก อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งได้นำแนวพระราชดำริหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ทุกคนในหมู่บ้าน ทั้งด้านการดำรงชีวิตแบบพึ่งพาตนเอง พร้อมกับการดูแลรักษาธรรมชาติ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบดีเด่นของจังหวัดพิษณุโลก ในปี 2550 ด้วย เสร็จแล้วนายกรัฐมนตรีได้บันทึกเทปรายการ “เปิดบ้านพิษณุโลก” ณ บริเวณบ้านบางกระน้อย ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเย็นวันนี้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 08.00 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายบัญญัติ จันทน์เสนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 อาคารใหม่ ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานลำปาง จังหวัดลำปาง และขึ้นเฮลิคอปเตอร์ต่อไปยังศูนย์ศิลปาชีพแม่ต่ำ อำเภอเสริมงาม เพื่อพบปะประชาชน และรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานในโครงการพัฒนาบ้านแม่ต่ำ พร้อมทั้งเยี่ยมชมการทำงานโรงงานแกะสลัก การทอผ้าและโรงงานเซรามิค
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาการเตรียมการเพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง ประจำปี 2550 รุ่นที่ 3 ณ โรงแรมลำปางเวียงทอง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ และประธานชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านระดับจังหวัด และระดับอำเภอ ของ 8 จังหวัด ภาคเหนือตอนบน กว่า 700 คน เข้าร่วมประชุม
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงเรื่องสำคัญเกี่ยวกับการจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งขอให้ทุกภาคส่วนรวมถึงประชาชนทุกหมู่เหล่ารวมพลังกันให้มากที่สุด และเข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล นอกจากนี้ ยังได้ขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันรณรงค์การเลือกตั้งเพื่อให้เป็นไปอย่างโปร่งใสเป็นธรรม และร่วมกันพัฒนาการเมืองของประเทศโดยการต่อต้านการซื้อสิทธิขายเสียง เลือกคนดีมีคุณภาพเข้ามาบริหารประเทศ พร้อมทั้งเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ 70 เปอร์เซ็นต์ และขอให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลาง
จากนั้นในตอนบ่ายนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาการเตรียมการเพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง ประจำปี 2550 รุ่นที่ 4 ณ โรงแรมท็อปแลนด์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ และประธานชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านระดับจังหวัด และระดับอำเภอ ของ 8 จังหวัด ภาคเหนือตอนล่าง จำนวน 734 คน เข้าร่วมประชุม
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปีนี้ถือเป็นปีที่มีวาระสำคัญอีกวาระหนึ่งตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมจนถึงประมาณวันที่ 9 ธันวาคม 2550 ซึ่งเป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะมีพิธีสำคัญสำหรับคนไทยทุกคน และวันนี้สิ่งที่ประชาชนทุกคนต่างรอคอยคือการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินกลับพระตำหนักว่าจะเป็นเมื่อไร เป็นสิ่งที่คนไทยอยากเห็น ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีโอกาสได้เข้าไปรับฟังพระอาการเกือบทุกวัน ถือว่าพระอาการดีขึ้นอย่างมาก และพระราชพิธีที่กำหนดไว้แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของพระบรมราชวินิจฉัย มีพระราชพิธีเดียวคือพระราชพิธีทอดพระกฐินทางชลมารควันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ว่าจะเสด็จฯ หรือไม่ ถือว่าเป็นปีมหามงคล จึงอยากจะขอเชิญชวนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหน่วยงานหลักในการทำหน้าที่จัดงาน โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการถวายพระพรอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ในช่วงเช้าของวันที่ 5 ธันวาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ซึ่งรัฐบาลได้จัดพื้นที่บริเวณท้องสนามหลวง ถนนราชดำเนิน และถนนตลอดเส้นทางที่รถยนต์พระที่นั่งจะเคลื่อนผ่านไปยังพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เพื่อให้ประชาชนได้เฝ้าฯ รับเสด็จ และในปีนี้จะมีการถ่ายทอดสดพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรตลอดงาน เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมกันถวายพระพรอย่างพร้อมเพรียงกัน และสิ่งที่เปลี่ยนแปลงจากปีที่ผ่านมาคือนอกจากจะร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชาแล้ว เราจะร่วมกันร้องเพลงพ่อแห่งแผ่นดิน เพื่อเป็นการถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเชื่อว่าคงจะไม่มีประเทศไหนในโลกที่ประชาชนจะใส่เสื้อเหลืองมากเท่าประเทศเรา
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการเตรียมการเลือกตั้งว่า ขณะนี้พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปได้มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถือว่าเป็นหน่วยงานหลักในการเลือกตั้ง ที่จะทำให้การเลือกตั้งเกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรมตามกฎหมาย ส่วนหน่วยงานอื่นถือว่าเป็นหน่วยงานที่จะต้องทำหน้าที่สนับสนุน ที่ถือว่าเป็นหน้าที่หลัก และเป็นส่วนจำเป็นของบ้านเมือง เพราะการเลือกตั้งไม่ว่าระดับใดก็ตาม ถือเป็นการแสดงออกทางด้านประชาธิปไตย และกำหนดทิศทางของประเทศ ดังนั้น จึงขอให้ข้าราชการทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายและวางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด เป็นข้าราชการที่ดี ไม่เข้าข้างใดข้างหนึ่ง หากมีหน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งก็ต้องอยู่ในการดูแลของ กกต. ตามมติของ กกต. สำหรับตำรวจและทหารที่มีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย คงได้มีการประสานงานกันโดยตรงกับ กกต.ในการดูแลไม่ให้มีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และทหารยังมีส่วนร่วมในการดูแลพื้นที่ที่ห่างไกลและเป็นแนวชายแดน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นวาระสำคัญอีกวาระหนึ่งที่เราจะต้องเอาบทเรียนที่มีปัญหามาตลอด มาแก้ไขในสิ่งเหล่านี้เพื่อให้ทุกอย่างเกิดความเรียบร้อย อย่างประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศมีความมั่นคงทางการเมืองค่อนข้างสูง ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจของเขาจะสู้ประเทศไทยไม่ได้ แต่ความมั่นคงทางการเมืองทำให้มีการพัฒนา อย่างที่หลายคนพูดว่าบางประเทศจะแซงหน้าเราแล้ว หรือจะหายใจลดต้นคอ เมื่อมีจุดอ่อนเราก็ต้องแก้ไข ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองก็จะลุ่ม ๆ ดอน ๆ และถูกประเทศเพื่อนบ้านแซงหน้าไปได้ อย่างประเทศเพื่อนบ้านทางฝั่งตะวันตกที่คนมองว่าใช้อำนาจทหารปกครอง อาจจะแซงหน้าเราได้หากเราไม่ปรับปรุง พัฒนา ในเมื่อเราผ่านช่วงเวลาวิกฤตมาแล้ว ก็ควรใช้เวลานั้นมาแก้ไขในสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้กลับมาอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง
ดังนั้น ในการเลือกตั้งครั้งนี้จึงอยากให้ประชาชนออกมามีส่วนร่วม โดยการใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งให้มากที่สุด อย่างที่เคยตั้งเป้าหมายไว้ 70 เปอร์เซ็นต์ ถ้าทำได้มากกว่านั้นก็จะเป็นเรื่องดี และจะทำให้ประชาชนได้รัฐบาลที่มาจากการตัดสินใจของประชาชนอย่างแท้จริง จะทำให้เราภาคภูมิใจในการเลือกผู้มาบริหารประเทศ นอกจากนั้น จะต้องทำหน้าที่ศึกษากฎหมายเลือกตั้ง รวมทั้งการให้รางวัลการแจ้งเบาะแสนำจับในเรื่องการทุจริตกับประชาชน และทำให้ประชาชนมามีส่วนร่วมให้มากที่สุด
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อยู่เย็นเป็นสุข ที่บ้านบางกระน้อย หมู่ที่ 2 ตำบลนครป่าหมาก อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งได้นำแนวพระราชดำริหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ทุกคนในหมู่บ้าน ทั้งด้านการดำรงชีวิตแบบพึ่งพาตนเอง พร้อมกับการดูแลรักษาธรรมชาติ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบดีเด่นของจังหวัดพิษณุโลก ในปี 2550 ด้วย เสร็จแล้วนายกรัฐมนตรีได้บันทึกเทปรายการ “เปิดบ้านพิษณุโลก” ณ บริเวณบ้านบางกระน้อย ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเย็นวันนี้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--