แท็ก
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สุรยุทธ์ จุลานนท์
จังหวัดนนทบุรี
เมืองทองธานี
นายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานมหัศจรรย์เด็กไทย มหกรรมปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา
วันนี้ เวลา 11.00 น. ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานมหัศจรรย์เด็กไทย มหกรรมปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และนำเสนอผลงานนักเรียนที่ชนะเลิศจากการประกวดแข่งขันในระดับเขตพื้นที่การศึกษาและในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนทั้ง 4 ภูมิภาค รวมทั้งให้กำลังใจแก่ครูและนักเรียนตลอดจนเสนอแนะแนวทางพัฒนาต่อไป โดยมีนายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้บริหารการศึกษา คณาจารย์ นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน เป็นจำนวนมาก
นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์การจัดงานสรุปสาระสำคัญว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายเร่งรัดปฏิรูปการศึกษา และในรอบปีที่ผ่านมาได้ สนับสนุนให้กระทรวงศึกษาธิการปรับแก้ปัญหาอุปสรรค เสริมเติมเต็มให้การปฏิรูปการศึกษาเดินไปทั้งระบบและครบกระบวนการ ตลอดจนปรับแต่งให้สนองตอบต่อการเปลี่ยนแปลง โดยเน้นการใช้คุณธรรมนำความรู้ เพื่อให้การศึกษาเป็นปัจจัยหลักในการพัฒนาคุณภาพของคน และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยรวมนั้น ด้วยพลังขับเคลื่อนของทุกภาคส่วนในสังคม การศึกษาขั้นพื้นฐานซึ่งเป็นการ ศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย จึงสามารถขยายโอกาสทางการศึกษาไปสู่เด็กและเยาวชนกว่า ๘ ล้านคน รวมทั้งเด็กพิการและด้อยโอกาสที่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ทั้งยังได้เสริมความเข้มแข็งให้แก่สถานศึกษา พัฒนาคุณภาพของครู และยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน การบริหารจัดการ น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการปลูกฝังคุณธรรมไปสู่สถานศึกษาทุกแห่ง จนปรากฏผลที่เป็นรูปธรรมในการพัฒนาคุณภาพนักเรียน
กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้จัดงาน “มหัศจรรย์เด็กไทย มหกรรมปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐาน” ขึ้น ระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2550 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา นำเสนอผลงานนักเรียนที่ชนะเลิศจากการประกวดแข่งขันในระดับเขตพื้นที่การศึกษาและในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนทั้ง 4 ภูมิภาค และส่งเสริมให้นักเรียน ครู และสถานศึกษาได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ภายใต้แนวคิด “เด็กคิด เด็กทำ เด็กนำเสนอ”
โดยมีนิทรรศการและกิจกรรมหลักใน 9 ด้าน ดังนี้ ต้นธารชีวิตงาม โรงเรียนดีของชุมชน เรียนสอนสื่อสร้างสรรค์ สื่อสารภาษาโลก อัศจรรย์เทคโนโลยี เด็กล้วนมีสิทธิ์การศึกษา ศิลปหัตถกรรมนี้ล้ำเลิศ นาฏศึกษาพัฒนาชีวิต และโรงเรียนจิ๋วแต่แจ๋ว ผลงานเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า หากเราได้ร่วมกันสนับสนุนการ ปฏิรูปการศึกษาให้ถูกทาง ถูกวิธี จะบังเกิดผลแก่เด็กและเยาวชน และจะเป็นรากฐานที่เข้มแข็งในการสร้างคนเพื่อสังคมคุณธรรม สังคมคุณภาพและอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน
จากนั้น พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้มอบเหรียญรางวัลชนะเลิศกิจกรรมแข่งขันแก่ผู้แทนทั้ง 4 ภูมิภาค เสร็จแล้วได้กล่าวแสดงความยินดีและภูมิใจ ที่ได้มาร่วมงานมหัศจรรย์เด็กไทย มหกรรมปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐาน และได้มาชื่นชมผลงานที่เกิดจากความสามารถของนักเรียนจากทุกภูมิภาคของประเทศ โดยเชื่อมั่นว่า เด็กไทยมีความมหัศจรรย์ในตัวเอง มีการเรียนรู้ จินตนาการ และมีพลังสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ และเด็กยิ่งได้รับการศึกษาอบรม ดูแลช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดจากครอบครัว สถานศึกษาและทุกภาคส่วนของสังคมมากเพียงใด ก็ยิ่งจะทำให้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ คุณธรรม และมีความรู้ความสามารถมากขึ้นมากเพียงนั้น เป็นทรัพยากรบุคคลที่พร้อมจะทำคุณประโยชน์และสร้างสรรค์จรรโลงสังคมไทยให้เจริญก้าวหน้า สืบต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาทุกด้าน รัฐบาลจึงมีนโยบายสนับสนุนการจัดการศึกษา ขั้นพื้นฐานให้มีความเข้มแข็ง ทั้งส่งเสริมการขยายโอกาสและพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานออกไปให้ทั่วถึง เพิ่มเงินอุดหนุนมากกว่า 14,564 ล้านบาท ให้แก่โรงเรียนทั่วประเทศ บรรจุอัตราข้าราชการครูและพนักงานราชการกว่า 1,700 อัตรา เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนครู สนับสนุนให้นักศึกษาหลักสูตรครู 5 ปี จำนวน 5,000 คน ไปปฏิบัติการสอนในโรงเรียนที่ขาดแคลนครู พัฒนาครูที่สอนไม่ตรงวุฒิการศึกษากว่า 30,000 คน และจัดสรรงบประมาณกว่า 22,800 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินวิทยฐานะให้แก่ครูที่มีผลงานในการจัดการเรียนการสอนได้มาตรฐานวิชาชีพ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม นโยบายคุณธรรมนำความรู้ยังเป็นหลักชัยในการจัดการศึกษา เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้ให้ความสำคัญกับการนำเรื่องคุณธรรมไปใช้ควบคู่กับความรู้ ในขณะเดียวกัน สถานศึกษาทุกแห่งก็ได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและหลักคุณธรรม 8 ประการ คือ ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย สุภาพ สะอาด สามัคคี และมีน้ำใจ ไปใช้ในการเรียนการสอนทุกระดับ เพื่อปลูกฝังให้หยั่งรากลึกไปสู่วิถีชีวิตของคนไทยต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การนำเสนอผลงานของเยาวชนในวันนี้ นอกจากจะทำให้ได้เห็นถึงความรู้ ความสามารถของเด็กและเยาวชนของแล้ว ยังทำให้ได้รับทราบว่ามาตรการที่กล่าวมานั้น ได้ส่งผลให้งานการศึกษาขั้นพื้นฐานมีความก้าวหน้ามากขึ้น อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสภาพเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี ไม่ได้ส่งผลเฉพาะ ทำให้วิถีการดำรงชีวิตของประชาชนต้องพัฒนาและปรับตัวมากขึ้นเท่านั้น แม้แต่การจัดการศึกษาก็จำเป็นต้องส่งเสริมและพัฒนาเพื่อความเป็นเลิศ และเพื่อเพิ่มพูนทักษะให้ ทุกคนสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขมากขึ้นด้วย และการจะทำงานในด้านต่างๆ ดังกล่าวให้ได้ผลนั้น ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ฝากประเด็นขอให้ ผู้บริหาร คณาจารย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานได้นำไปพิจารณา ดังนี้ ประการแรก ขอให้ผู้บริหาร ครู และชุมชน น้อมนำแนวทางพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่อง “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เป็นหลักในการจัดการศึกษา เพื่อให้เข้าถึงเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสที่ยังอาจตกหล่นในหลายพื้นที่ ในขณะเดียวกันก็ขอให้ปรับหลักสูตร หรือรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่คำนึงถึงความหลากหลายทางพื้นฐานเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ให้มากขึ้น เพื่อลดช่องว่างในโอกาสและเพิ่มคุณภาพการศึกษา ของกลุ่มต่างๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ประการที่สอง ขอให้ส่งเสริมให้นักเรียนซึ่งได้เรียนรู้ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนแล้วนำหลักการนี้ไปสู่การดำรงชีวิต และการตัดสินใจ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้เกิดแก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมประเทศชาติสืบต่อไปด้วย
และประการสุดท้าย ขอให้ผู้บริหาร ครู และนักเรียน ร่วมกันพัฒนาประชาธิปไตยให้มีความเข้มแข็งมั่นคง เช่น การช่วยกันรณรงค์ให้ประชาชนออกไปทำหน้าที่ใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 นี้ เพื่อทำให้การเมืองของเรามีความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม และร่วมกันปลูกฝังวิถีชีวิตประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในครอบครัว โรงเรียน และในสังคมโดยรวม
ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้จัดงานมหัศจรรย์เด็กไทย ฯ ให้สาธารณชนได้รับทราบและยังเป็นเวทีให้นักเรียนและโรงเรียนได้นำเสนอผลงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ระหว่างกันอีกด้วย หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะได้เยี่ยมชมนิทรรศการและกิจกรรมบริเวณห้องโถงต่าง ๆ โดย นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”ต้นธารชีวิตงาม” ซึ่งเป็นการถ่ายทอดอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงพระราชบัญญัติที่เชื่อมโยงสื่อการเรียนการสอนในการน้อมนำแนวทางพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้นำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์แก่เด็กไทยนานับประการ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 11.00 น. ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานมหัศจรรย์เด็กไทย มหกรรมปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และนำเสนอผลงานนักเรียนที่ชนะเลิศจากการประกวดแข่งขันในระดับเขตพื้นที่การศึกษาและในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนทั้ง 4 ภูมิภาค รวมทั้งให้กำลังใจแก่ครูและนักเรียนตลอดจนเสนอแนะแนวทางพัฒนาต่อไป โดยมีนายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้บริหารการศึกษา คณาจารย์ นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน เป็นจำนวนมาก
นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์การจัดงานสรุปสาระสำคัญว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายเร่งรัดปฏิรูปการศึกษา และในรอบปีที่ผ่านมาได้ สนับสนุนให้กระทรวงศึกษาธิการปรับแก้ปัญหาอุปสรรค เสริมเติมเต็มให้การปฏิรูปการศึกษาเดินไปทั้งระบบและครบกระบวนการ ตลอดจนปรับแต่งให้สนองตอบต่อการเปลี่ยนแปลง โดยเน้นการใช้คุณธรรมนำความรู้ เพื่อให้การศึกษาเป็นปัจจัยหลักในการพัฒนาคุณภาพของคน และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยรวมนั้น ด้วยพลังขับเคลื่อนของทุกภาคส่วนในสังคม การศึกษาขั้นพื้นฐานซึ่งเป็นการ ศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย จึงสามารถขยายโอกาสทางการศึกษาไปสู่เด็กและเยาวชนกว่า ๘ ล้านคน รวมทั้งเด็กพิการและด้อยโอกาสที่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ทั้งยังได้เสริมความเข้มแข็งให้แก่สถานศึกษา พัฒนาคุณภาพของครู และยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน การบริหารจัดการ น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการปลูกฝังคุณธรรมไปสู่สถานศึกษาทุกแห่ง จนปรากฏผลที่เป็นรูปธรรมในการพัฒนาคุณภาพนักเรียน
กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้จัดงาน “มหัศจรรย์เด็กไทย มหกรรมปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐาน” ขึ้น ระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2550 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา นำเสนอผลงานนักเรียนที่ชนะเลิศจากการประกวดแข่งขันในระดับเขตพื้นที่การศึกษาและในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนทั้ง 4 ภูมิภาค และส่งเสริมให้นักเรียน ครู และสถานศึกษาได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ภายใต้แนวคิด “เด็กคิด เด็กทำ เด็กนำเสนอ”
โดยมีนิทรรศการและกิจกรรมหลักใน 9 ด้าน ดังนี้ ต้นธารชีวิตงาม โรงเรียนดีของชุมชน เรียนสอนสื่อสร้างสรรค์ สื่อสารภาษาโลก อัศจรรย์เทคโนโลยี เด็กล้วนมีสิทธิ์การศึกษา ศิลปหัตถกรรมนี้ล้ำเลิศ นาฏศึกษาพัฒนาชีวิต และโรงเรียนจิ๋วแต่แจ๋ว ผลงานเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า หากเราได้ร่วมกันสนับสนุนการ ปฏิรูปการศึกษาให้ถูกทาง ถูกวิธี จะบังเกิดผลแก่เด็กและเยาวชน และจะเป็นรากฐานที่เข้มแข็งในการสร้างคนเพื่อสังคมคุณธรรม สังคมคุณภาพและอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน
จากนั้น พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้มอบเหรียญรางวัลชนะเลิศกิจกรรมแข่งขันแก่ผู้แทนทั้ง 4 ภูมิภาค เสร็จแล้วได้กล่าวแสดงความยินดีและภูมิใจ ที่ได้มาร่วมงานมหัศจรรย์เด็กไทย มหกรรมปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐาน และได้มาชื่นชมผลงานที่เกิดจากความสามารถของนักเรียนจากทุกภูมิภาคของประเทศ โดยเชื่อมั่นว่า เด็กไทยมีความมหัศจรรย์ในตัวเอง มีการเรียนรู้ จินตนาการ และมีพลังสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ และเด็กยิ่งได้รับการศึกษาอบรม ดูแลช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดจากครอบครัว สถานศึกษาและทุกภาคส่วนของสังคมมากเพียงใด ก็ยิ่งจะทำให้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ คุณธรรม และมีความรู้ความสามารถมากขึ้นมากเพียงนั้น เป็นทรัพยากรบุคคลที่พร้อมจะทำคุณประโยชน์และสร้างสรรค์จรรโลงสังคมไทยให้เจริญก้าวหน้า สืบต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาทุกด้าน รัฐบาลจึงมีนโยบายสนับสนุนการจัดการศึกษา ขั้นพื้นฐานให้มีความเข้มแข็ง ทั้งส่งเสริมการขยายโอกาสและพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานออกไปให้ทั่วถึง เพิ่มเงินอุดหนุนมากกว่า 14,564 ล้านบาท ให้แก่โรงเรียนทั่วประเทศ บรรจุอัตราข้าราชการครูและพนักงานราชการกว่า 1,700 อัตรา เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนครู สนับสนุนให้นักศึกษาหลักสูตรครู 5 ปี จำนวน 5,000 คน ไปปฏิบัติการสอนในโรงเรียนที่ขาดแคลนครู พัฒนาครูที่สอนไม่ตรงวุฒิการศึกษากว่า 30,000 คน และจัดสรรงบประมาณกว่า 22,800 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินวิทยฐานะให้แก่ครูที่มีผลงานในการจัดการเรียนการสอนได้มาตรฐานวิชาชีพ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม นโยบายคุณธรรมนำความรู้ยังเป็นหลักชัยในการจัดการศึกษา เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้ให้ความสำคัญกับการนำเรื่องคุณธรรมไปใช้ควบคู่กับความรู้ ในขณะเดียวกัน สถานศึกษาทุกแห่งก็ได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและหลักคุณธรรม 8 ประการ คือ ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย สุภาพ สะอาด สามัคคี และมีน้ำใจ ไปใช้ในการเรียนการสอนทุกระดับ เพื่อปลูกฝังให้หยั่งรากลึกไปสู่วิถีชีวิตของคนไทยต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การนำเสนอผลงานของเยาวชนในวันนี้ นอกจากจะทำให้ได้เห็นถึงความรู้ ความสามารถของเด็กและเยาวชนของแล้ว ยังทำให้ได้รับทราบว่ามาตรการที่กล่าวมานั้น ได้ส่งผลให้งานการศึกษาขั้นพื้นฐานมีความก้าวหน้ามากขึ้น อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสภาพเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี ไม่ได้ส่งผลเฉพาะ ทำให้วิถีการดำรงชีวิตของประชาชนต้องพัฒนาและปรับตัวมากขึ้นเท่านั้น แม้แต่การจัดการศึกษาก็จำเป็นต้องส่งเสริมและพัฒนาเพื่อความเป็นเลิศ และเพื่อเพิ่มพูนทักษะให้ ทุกคนสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขมากขึ้นด้วย และการจะทำงานในด้านต่างๆ ดังกล่าวให้ได้ผลนั้น ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ฝากประเด็นขอให้ ผู้บริหาร คณาจารย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานได้นำไปพิจารณา ดังนี้ ประการแรก ขอให้ผู้บริหาร ครู และชุมชน น้อมนำแนวทางพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่อง “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เป็นหลักในการจัดการศึกษา เพื่อให้เข้าถึงเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสที่ยังอาจตกหล่นในหลายพื้นที่ ในขณะเดียวกันก็ขอให้ปรับหลักสูตร หรือรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่คำนึงถึงความหลากหลายทางพื้นฐานเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ให้มากขึ้น เพื่อลดช่องว่างในโอกาสและเพิ่มคุณภาพการศึกษา ของกลุ่มต่างๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ประการที่สอง ขอให้ส่งเสริมให้นักเรียนซึ่งได้เรียนรู้ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนแล้วนำหลักการนี้ไปสู่การดำรงชีวิต และการตัดสินใจ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้เกิดแก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมประเทศชาติสืบต่อไปด้วย
และประการสุดท้าย ขอให้ผู้บริหาร ครู และนักเรียน ร่วมกันพัฒนาประชาธิปไตยให้มีความเข้มแข็งมั่นคง เช่น การช่วยกันรณรงค์ให้ประชาชนออกไปทำหน้าที่ใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 นี้ เพื่อทำให้การเมืองของเรามีความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม และร่วมกันปลูกฝังวิถีชีวิตประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในครอบครัว โรงเรียน และในสังคมโดยรวม
ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้จัดงานมหัศจรรย์เด็กไทย ฯ ให้สาธารณชนได้รับทราบและยังเป็นเวทีให้นักเรียนและโรงเรียนได้นำเสนอผลงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ระหว่างกันอีกด้วย หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะได้เยี่ยมชมนิทรรศการและกิจกรรมบริเวณห้องโถงต่าง ๆ โดย นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”ต้นธารชีวิตงาม” ซึ่งเป็นการถ่ายทอดอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงพระราชบัญญัติที่เชื่อมโยงสื่อการเรียนการสอนในการน้อมนำแนวทางพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้นำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์แก่เด็กไทยนานับประการ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--