นายกรัฐมนตรีระบุเงินของกลางท่อพีวีซีอยู่ครบ ซึ่งผู้แจ้งเบาะแสได้ไป 3 ล้านกว่าบาท ขณะที่รัฐบาลมาเลเซียส่งตัวเจ้าของเงินท่อพีวีซีกลับมาดำเนินคดีในไทยแล้ว
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเงินของกลางที่ยึดมาจากขบวนการค้ายาเสพติดที่จังหวัดนราธิวาส ซึ่งผู้แจ้งเบาะแสออกมาระบุว่าเงินของกลางหายว่า เงินไม่ได้หายไป แต่เป็นการให้ค่าตอบแทนกับผู้ชี้เบาะแส ซึ่งนายพระนาย สุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) รายงานว่ามีภาพท่อพีวีซีที่บรรจุเงินทั้งหมดอยู่ครบ และได้มอบให้กับผู้ชี้เบาะแสไป ส่วนเงินที่มอบให้นั้นประมาณ 3 ล้านบาท อีกทั้งไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ เพราะไม่ได้มีเงินมากมายเหมือนอย่างที่มีข่าวว่า พบเงินถึง 70 ล้านบาท และยึดได้มาเพียง 30 ล้านบาท หายไป 40 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ที่ชี้เบาะแสได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าได้เงินไปเพียง 3 ล้านกว่าบาทเท่านั้นเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามกฎหมายและกติกาการแบ่งเงินของกลางในการแจ้งเบาะแสนั้นมีระเบียบชัดเจนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามปกติแต่ละหน่วยงานจะมีเกณฑ์กำหนดไว้ว่า เป็นจำนวนเงินเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กรมศุลกากร สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แต่การที่มีการร้องเรียนในครั้งนี้ นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นมาของผู้ที่ชี้เบาะแสว่าเงินที่เขาได้รับน้อยเกินไป โดยสรุปเงินของกลางทั้งหมดที่จับกุมมาได้นั้นมีไม่เกิน 40 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการรายงานเงินที่เป็นของกลางทั้งหมดมีส่วนพัวพันกับการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางมาเลเซียได้ส่งผู้ที่ดำเนินการมาดำเนินคดีในประเทศไทยแล้ว คือเจ้าของเงิน ทางมาเลเซียได้ส่งตัวกลับมา เพราะว่าทางเราได้ส่งหลักฐานในเรื่องการขอหมายจับไปยังรัฐบาลมาเลเซีย จึงได้ส่งตัวกลับมา และได้ดำเนินการสอบสวนอยู่ในขณะนี้ ซึ่งคิดว่าเกี่ยวโยงกับการค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่นั้น ยังไม่ได้ข้อมูลที่ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องหรือเปล่า เพราะอยู่ที่ผลการสอบสวนของทั้ง 2 คนที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าของเงินนั้นเป็นคนไทยเชื้อสายมาเลเซียและเป็นคนในท้องถิ่น เมื่อเขาทราบว่าตำรวจไทยออกหมายจับก็หนีไปอยู่ที่มาเลเซีย เมื่อเราแจ้งให้มาเลเซียทราบ รัฐบาลมาเลเซียก็ส่งตัวมาให้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และคิดว่าหลักฐานที่มีอยู่สามารถดำเนินคดีได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการขยายผลหรือไม่ว่านอกจากที่ผู้แจ้งเบาะแสจะต้องการเรื่องเงินแล้วยังต้องการที่จะ ดิสเครดิตเจ้าหน้าที่ด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี แต่ที่ทราบแน่ ๆ คือผู้แจ้งเบาะแส คงเป็นคนที่เกี่ยวข้องไม่ด้วยวิธีใดก็วิธีหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามถึงการประเมินการแก้ไขปัญหาภาคใต้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงพูดได้ว่าความรุนแรงลดลง สถานการณ์ดีขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะวางใจและไม่ดูแลในเรื่องความสงบในพื้นที่ ยังต้องดูแลกันต่อไปและต้องเพิ่มวิธีการให้รัดกุม โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมให้มากขึ้น และขณะนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งกองทัพบก ศอ.บต. ได้เน้นเรื่องความร่วมมือของประชาชนให้มากขึ้น ในส่วนของแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องของการจับกุม
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเงินของกลางที่ยึดมาจากขบวนการค้ายาเสพติดที่จังหวัดนราธิวาส ซึ่งผู้แจ้งเบาะแสออกมาระบุว่าเงินของกลางหายว่า เงินไม่ได้หายไป แต่เป็นการให้ค่าตอบแทนกับผู้ชี้เบาะแส ซึ่งนายพระนาย สุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) รายงานว่ามีภาพท่อพีวีซีที่บรรจุเงินทั้งหมดอยู่ครบ และได้มอบให้กับผู้ชี้เบาะแสไป ส่วนเงินที่มอบให้นั้นประมาณ 3 ล้านบาท อีกทั้งไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ เพราะไม่ได้มีเงินมากมายเหมือนอย่างที่มีข่าวว่า พบเงินถึง 70 ล้านบาท และยึดได้มาเพียง 30 ล้านบาท หายไป 40 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ที่ชี้เบาะแสได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าได้เงินไปเพียง 3 ล้านกว่าบาทเท่านั้นเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามกฎหมายและกติกาการแบ่งเงินของกลางในการแจ้งเบาะแสนั้นมีระเบียบชัดเจนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามปกติแต่ละหน่วยงานจะมีเกณฑ์กำหนดไว้ว่า เป็นจำนวนเงินเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กรมศุลกากร สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แต่การที่มีการร้องเรียนในครั้งนี้ นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นมาของผู้ที่ชี้เบาะแสว่าเงินที่เขาได้รับน้อยเกินไป โดยสรุปเงินของกลางทั้งหมดที่จับกุมมาได้นั้นมีไม่เกิน 40 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการรายงานเงินที่เป็นของกลางทั้งหมดมีส่วนพัวพันกับการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางมาเลเซียได้ส่งผู้ที่ดำเนินการมาดำเนินคดีในประเทศไทยแล้ว คือเจ้าของเงิน ทางมาเลเซียได้ส่งตัวกลับมา เพราะว่าทางเราได้ส่งหลักฐานในเรื่องการขอหมายจับไปยังรัฐบาลมาเลเซีย จึงได้ส่งตัวกลับมา และได้ดำเนินการสอบสวนอยู่ในขณะนี้ ซึ่งคิดว่าเกี่ยวโยงกับการค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่นั้น ยังไม่ได้ข้อมูลที่ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องหรือเปล่า เพราะอยู่ที่ผลการสอบสวนของทั้ง 2 คนที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าของเงินนั้นเป็นคนไทยเชื้อสายมาเลเซียและเป็นคนในท้องถิ่น เมื่อเขาทราบว่าตำรวจไทยออกหมายจับก็หนีไปอยู่ที่มาเลเซีย เมื่อเราแจ้งให้มาเลเซียทราบ รัฐบาลมาเลเซียก็ส่งตัวมาให้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และคิดว่าหลักฐานที่มีอยู่สามารถดำเนินคดีได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการขยายผลหรือไม่ว่านอกจากที่ผู้แจ้งเบาะแสจะต้องการเรื่องเงินแล้วยังต้องการที่จะ ดิสเครดิตเจ้าหน้าที่ด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี แต่ที่ทราบแน่ ๆ คือผู้แจ้งเบาะแส คงเป็นคนที่เกี่ยวข้องไม่ด้วยวิธีใดก็วิธีหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามถึงการประเมินการแก้ไขปัญหาภาคใต้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงพูดได้ว่าความรุนแรงลดลง สถานการณ์ดีขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะวางใจและไม่ดูแลในเรื่องความสงบในพื้นที่ ยังต้องดูแลกันต่อไปและต้องเพิ่มวิธีการให้รัดกุม โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมให้มากขึ้น และขณะนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งกองทัพบก ศอ.บต. ได้เน้นเรื่องความร่วมมือของประชาชนให้มากขึ้น ในส่วนของแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องของการจับกุม
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--