นายซือนาร์ อัลเดมีร์ (H.E.Mr.Cinar Aldemir)เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี
วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายซือนาร์ อัลเดมีร์ (H.E.Mr. ?inar Aldemir) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ประจำประเทศไทย สรุปสาระสำคัญของการสนทนา ดังนี้
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับเอกอัครราชทูตฯ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ประจำประเทศไทย และหวังว่าระหว่างการดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตในไทย จะทำให้ความสัมพันธ์ของไทยกับตุรกีแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งไทยและตุรกีมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมายาวนาน และจะครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-ตุรกี ในปี 2008 ซึ่งไทยยินดีจะสนับสนุนการดำเนินการเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสดังกล่าว
นายกรัฐมนตรีได้หารือกับเอกอัครราชทูตฯ ว่าไทยและตุรกีควรผลักดันให้มีการลงนามแผนปฏิบัติการร่วมมือระหว่างไทย-ตุรกีที่ได้มีการยกร่างไว้แล้วในปีหน้า ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
ระหว่างการสนทนา เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทยได้เล่าถึงสถานการณ์ความไม่สงบในภาคเหนือของอิรักว่า หลังจากการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรี Erdogan ของตุรกีกับประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ที่กรุงวอชิงตัน สถานการณ์ดังกล่าวก็มีแนวโน้มที่จะคลี่คลาย
ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณแก่เอกอัครราชทูตฯ ที่ได้ไปลงนามถวายพระพรแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้หายจากพระอาการประชวร ซึ่งเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทยรู้สึกยินดีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ออกจากโรงพยาบาลศิริราชเมื่อวานนี้ และได้แจ้งข่าวอันน่ายินดีนี้ให้ตุรกีทราบเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังแสดงความขอบคุณแก่รัฐบาลตุรกีที่ให้การสนับสนุนด้านการศึกษาแก่นักเรียนไทยในตุรกี โดยเฉพาะการให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งเอกอัครราชทูตรับรองว่ารัฐบาลตุรกีจะพยายามให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทยและตุรกีมีความร่วมมือด้านการศึกษาด้วยดีตลอดมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความสัมพันธ์ไทยและตุรกีจะแน่นแฟ้นต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายซือนาร์ อัลเดมีร์ (H.E.Mr. ?inar Aldemir) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ประจำประเทศไทย สรุปสาระสำคัญของการสนทนา ดังนี้
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับเอกอัครราชทูตฯ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ประจำประเทศไทย และหวังว่าระหว่างการดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตในไทย จะทำให้ความสัมพันธ์ของไทยกับตุรกีแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งไทยและตุรกีมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมายาวนาน และจะครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-ตุรกี ในปี 2008 ซึ่งไทยยินดีจะสนับสนุนการดำเนินการเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสดังกล่าว
นายกรัฐมนตรีได้หารือกับเอกอัครราชทูตฯ ว่าไทยและตุรกีควรผลักดันให้มีการลงนามแผนปฏิบัติการร่วมมือระหว่างไทย-ตุรกีที่ได้มีการยกร่างไว้แล้วในปีหน้า ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
ระหว่างการสนทนา เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทยได้เล่าถึงสถานการณ์ความไม่สงบในภาคเหนือของอิรักว่า หลังจากการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรี Erdogan ของตุรกีกับประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ที่กรุงวอชิงตัน สถานการณ์ดังกล่าวก็มีแนวโน้มที่จะคลี่คลาย
ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณแก่เอกอัครราชทูตฯ ที่ได้ไปลงนามถวายพระพรแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้หายจากพระอาการประชวร ซึ่งเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทยรู้สึกยินดีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ออกจากโรงพยาบาลศิริราชเมื่อวานนี้ และได้แจ้งข่าวอันน่ายินดีนี้ให้ตุรกีทราบเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังแสดงความขอบคุณแก่รัฐบาลตุรกีที่ให้การสนับสนุนด้านการศึกษาแก่นักเรียนไทยในตุรกี โดยเฉพาะการให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งเอกอัครราชทูตรับรองว่ารัฐบาลตุรกีจะพยายามให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทยและตุรกีมีความร่วมมือด้านการศึกษาด้วยดีตลอดมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความสัมพันธ์ไทยและตุรกีจะแน่นแฟ้นต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--